ตลาดคริปโตเผชิญภาวะร่วงหนัก บิตคอยน์(BTC) ดิ่งแตะ 78,000 ดอลลาร์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวในแดนลบอีกครั้ง โดยบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงใกล้ระดับ 78,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปี 2025 ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา บิตคอยน์ปรับตัวลดลงมากกว่า 11% คืนกำไรที่เคยพุ่งขึ้นไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 82,176 ดอลลาร์ หลังร่วงลงอีก 4% ในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด
มูลค่าตลาดรวมของคริปโตเคอเรนซีได้รับผลกระทบเช่นกัน ลดลงประมาณ 7% เหลือ 2.77 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 4,021 ล้านล้านวอน ในขณะเดียวกัน เหรียญชั้นนำอย่างโซลานา(SOL) และริปเปิล(XRP) ต่างร่วงลงกว่า 7% ส่วนอีเธอเรียม(ETH) ดิ่งลงมากกว่า 8% เข้าใกล้ระดับ 2,000 ดอลลาร์ ขณะที่คาร์ดาโน(ADA) และโดชคอยน์(DOGE) สูญเสียมูลค่า 7% และ 9% ตามลำดับ
ความผันผวนดังกล่าวส่งผลให้มูลค่าลดลงของสถานะซื้อ (Long Position) รวมกว่า 540 ล้านดอลลาร์ หรือราว 7.84 แสนล้านวอน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดคริปโตถูกบังคับปิดสถานะ (Liquidation) รวมถึง 616 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 895 พันล้านวอน โดยเฉพาะตลาดสัญญาฟิวเจอร์สบิตคอยน์ที่ขาดทุนหนักถึง 231 ล้านดอลลาร์
ปัจจัยหนึ่งที่อาจกระตุ้นการร่วงของตลาดคือ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอน ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับ Fox News โดยกล่าวถึง ‘ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ’ พร้อมบอกเป็นนัยว่าการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรและการตัดงบประมาณอาจส่งผลกระทบต่อตลาดในช่วงสั้น นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำว่า "จีนมีแผนศตวรรษ แต่สหรัฐฯ มุ่งเป้าหมายเพียงแค่ผลประกอบการไตรมาส" ซึ่งสะท้อนแนวทางเศรษฐกิจของเขา
บางฝ่ายเปรียบเทียบแนวทางของทรัมป์กับนโยบายการเงินในยุคพอล โวลเกอร์ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ใช้อัตราดอกเบี้ยสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าจะนำไปสู่ภาวะถดถอยในระยะสั้น แต่มีผู้วิเคราะห์ว่าหากแนวทางของทรัมป์คงอยู่ต่อไป อาจสร้างรากฐานเพื่อการเติบโตในระยะยาว
อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX แสดงความคิดเห็นว่า ตลาดยังอาจเผชิญกับแนวโน้มขาลงต่อไป โดยบิตคอยน์มีโอกาสทดสอบระดับ 78,000 ดอลลาร์อีกครั้ง และอาจลดลงได้ถึง 75,000 ดอลลาร์ เนื่องจากมีสัญญาออปชันจำนวนมากอยู่ในช่วงราคา 70,000–75,000 ดอลลาร์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความผันผวนรุนแรง
ขณะที่ฝั่งธนาคารกลางสหรัฐฯ ประธานเจอโรม พาวเวลล์ ยังคงแสดงท่าทีระมัดระวังต่อการดำเนินนโยบายดอกเบี้ย โดยกำลังเฝ้าติดตามผลกระทบของนโยบายเศรษฐกิจจากฝ่ายบริหารของทรัมป์ นอกจากนี้ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอกว่าคาดการณ์เมื่อวันศุกร์ อาจเปิดโอกาสให้ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งภายในปีนี้
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันที่ 12 มีนาคม สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และ 13 มีนาคม สำหรับดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) โดยผลลัพธ์ของตัวเลขเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของบิตคอยน์ในระยะต่อไป
ความคิดเห็น 0