รัฐบาลทั่วโลกเร่งนำ ‘บล็อกเชน’ ใช้งาน คาดตลาดเติบโตแตะ 7.9 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2030
การนำเทคโนโลยี ‘บล็อกเชน’ มาใช้ในภาครัฐกำลังเร่งตัวขึ้นทั่วโลก โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดที่เกี่ยวข้องอาจสูงถึง 7.91 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,153 ล้านล้านวอน) ภายในปี 2030
ตามรายงานล่าสุดของ Research and Markets ในปี 2024 ตลาดบล็อกเชนภาครัฐมีมูลค่าเพียง 22.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 32.7 ล้านล้านวอน) แต่มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 81%
‘ความโปร่งใส’ คือ ปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการเติบโตนี้ ขณะที่ภาคเอกชนได้นำบล็อกเชนมาใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อมูลและกระบวนการดำเนินงาน ส่งผลให้ภาครัฐกำลังเดินตามแนวทางเดียวกัน โดยเฉพาะด้านประสิทธิภาพของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการพัฒนาระบบ ‘เลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์’
รายงานระบุว่าบล็อกเชนจะถูกนำมาใช้ในหลากหลายด้าน เช่น การบริหารโครงสร้างพื้นฐาน การกระจายสวัสดิการสังคม ระบบยุติธรรม และภาษีอากร นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของบริษัทใหม่ที่พัฒนาโซลูชันบล็อกเชนสำหรับภาครัฐ รวมถึงการขยายตลาดของบริษัทด้านซอฟต์แวร์และโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยผลักดันมูลค่าตลาดเข้าใกล้ 8 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,167 ล้านล้านวอน)
ในเชิงภูมิศาสตร์ ตลาด ‘อเมริกาเหนือ’ คาดว่าจะเป็นภูมิภาคที่มีสัดส่วนสูงที่สุด ตามมาด้วย ‘ยุโรป’ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับ ‘เอเชีย’ นั้น จีนยังคงเป็นผู้นำด้านการบูรณาการบล็อกเชนในภาครัฐ ขณะที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกโดยรวมกำลังขยายตัวอย่างมั่นคง
สำหรับประเทศที่เริ่มนำบล็อกเชนมาใช้ พบว่าภาคการเงินเป็นกลุ่มที่มีการใช้งานมากที่สุด โดยเฉพาะโครงการออก ‘สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง’ (CBDC) ซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน บางประเทศก็กำลังทดลองใช้ ‘เมตาเวิร์ส’ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการชำระเงินข้ามพรมแดน ตลอดจนการบริหาร ‘อัตลักษณ์ดิจิทัล’ ผ่านบล็อกเชน
ในอีกด้านหนึ่ง ตลาด ‘สมาร์ตซิตี้’ ที่ใช้เทคโนโลยี ‘อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง’ (IoT) คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 9.52 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,387 ล้านล้านวอน) ภายในปี 2032 ตามรายงานของ SNS Insider ซึ่งระบุว่าแนวโน้มนี้กำลังได้รับแรงหนุนจากภาครัฐที่เร่งพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ส่งผลให้อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีพุ่งสูงถึง 19.3%
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง IoT ถูกนำมาใช้ในการบริหาร ‘ระบบขนส่ง’ ‘ความปลอดภัยสาธารณะ’ และ ‘การจัดการพลังงาน’ อย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้แม้ว่าการนำ ‘บล็อกเชน’ มาใช้ในภาครัฐจะมีแนวโน้มเติบโตสูง แต่ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ เช่น ‘ปัญหาด้านความปลอดภัย’ ค่าใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน และ ‘การทำงานร่วมกันของข้อมูล’ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเชื่อว่าบล็อกเชนสามารถช่วยลด ‘ความเสี่ยงด้านไซเบอร์’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ท้ายที่สุด การใช้บล็อกเชนในภาครัฐจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และขยายขอบเขตการนำไปใช้ในหลากหลายด้าน ส่งผลให้ตลาดนี้มีแนวโน้มเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอีก 10 ปีข้างหน้า
ความคิดเห็น 0