ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวอย่างผันผวนอีกครั้ง โดยบิตคอยน์(BTC) เคยร่วงลงไปแตะระดับ 80,000 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมาที่ 84,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ ‘อีเธอเรียม(ETH)’ และอัลต์คอยน์หลักต่างเผชิญกับแรงขาย โดยหลายเหรียญมีมูลค่าลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก
บิตคอยน์ต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านราคามาหลายวันแล้ว เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ราคาปรับตัวไซด์เวย์บริเวณ 86,000 ดอลลาร์ แต่เมื่อเข้าสู่วันจันทร์ก็เกิดแรงเทขายหนักจนราคาร่วงลงอย่างรวดเร็ว การลดลงครั้งนี้ส่งผลให้มูลค่าการล้างพอร์ตในตลาดฟิวเจอร์สแตะระดับหลายร้อยล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาหนุนให้ราคาเริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะนี้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์อยู่ที่ประมาณ 1.66 ล้านล้านดอลลาร์ และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 58.1%
อัลต์คอยน์ได้รับแรงกดดันเช่นกัน ‘อีเธอเรียม(ETH)’ เคยร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายปี แต่ล่าสุดราคาได้ฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ 2,120 ดอลลาร์ ขณะที่ ‘ริปเปิล(XRP)’, ‘โซลานา(SOL)’, ‘โดชคอยน์(DOGE)’ และ ‘ไลต์คอยน์(LTC)’ ต่างก็ประสบภาวะขาลง โดยเฉพาะ ‘ไพคอยน์(PI)’ ที่ตกลงมาอยู่ที่ 1.43 ดอลลาร์ คิดเป็นการลดลงถึง 14% ภายในสัปดาห์เดียว
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความผันผวนของตลาด มีโทเค็นบางตัวที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ โดย ‘เอเธนา(ENA)’, ‘อาเว(AAVE)’ และ ‘สตอรี่(IP)’ ต่างมีราคาขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ดึงดูดความสนใจของนักลงทุน
นักวิเคราะห์มองว่าตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ คือรายงาน ‘ดัชนีราคาผู้บริโภค’ (CPI) ของสหรัฐฯ ที่จะเผยแพร่ในวันที่ 12 มีนาคม ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มการเคลื่อนไหวของนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์ทั่วโลก
ขณะนี้ มูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 2.82 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลง 5% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นักวิเคราะห์คาดว่าความผันผวนอาจยังคงอยู่ในช่วงสัปดาห์หน้า โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก จะเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางของบิตคอยน์และตลาดคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0