ตลาดคริปโตเผชิญกับภาวะร่วงหนัก บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ต่างสูญเสียมูลค่าจำนวนมากในช่วงการซื้อขายล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ตามรายงานของ Coinpedia มูลค่าตลาดรวมลดลงถึง 148,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.4 ล้านล้านบาท) ภายในวันเดียว บ่งบอกถึงแรงขายที่รุนแรงทั่วทั้งตลาด
ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการปรับฐานครั้งนี้คือความไม่แน่นอนด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งไม่ได้เสนอแผนรับมือที่ชัดเจนต่อความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวล บิตคอยน์ร่วงลงแตะระดับ 80,000 ดอลลาร์ ขณะที่อีเธอเรียมลดลงต่ำกว่าระดับ 2,000 ดอลลาร์
แรงเทขายยังส่งผลให้ตลาดเผชิญกับการชำระบัญชีครั้งใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 625 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 22,900 ล้านบาท) โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ใช้เลเวอเรจสูง ซึ่งต้องเผชิญกับตำแหน่งที่ถูกชำระออกไป มูลค่าการชำระบัญชีของสถานะซื้อ (Long Position) ในบิตคอยน์เพียงอย่างเดียวแตะ 240 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8,800 ล้านบาท) นักวิเคราะห์เตือนว่าหากราคาหลุดแนวรับที่ 78,000 ดอลลาร์ ตลาดอาจเห็นการร่วงลงเพิ่มเติม
อีเธอเรียมเองก็ได้รับแรงกดดันจากการไหลออกของเงินทุนจากสถาบันและการขายทำกำไรจากกองทุน ETF ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าบางวาฬในตลาดยังคงเข้าซื้อ ETH อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องจับตาดูว่าราคาจะฟื้นตัวได้หรือไม่ โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,250 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงยังซ้ำเติมสถานการณ์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 300 จุด และดัชนี Nasdaq 100 ลดลงมากกว่า 1% ส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังตัวมากขึ้น ทำให้บิตคอยน์และอีเธอเรียมที่มักเคลื่อนไหวสอดคล้องกับตลาดหุ้นเผชิญกับแรงเทขายเพิ่มเติม
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการปรับฐานครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่ความผันผวนระยะสั้น แต่เป็นการปรับตัวเชิงโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจมหภาค หากประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ชี้แจงนโยบายเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและการคลังให้ชัดเจน อาจมีโอกาสที่ตลาดคริปโตจะเผชิญกับแรงขายหนักอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0