เจมิไน ขยายบริการชำระเงินดอลลาร์สหรัฐสำหรับนักลงทุนสถาบันในยุโรป
แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ‘เจมิไน’ กำลังขยายบริการชำระเงินด้วย ‘ดอลลาร์สหรัฐ’ สำหรับนักลงทุนสถาบันในยุโรป หลังจากเปิดให้บริการในสหราชอาณาจักรและสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ฟีเจอร์ดังกล่าวจะได้รับการขยายไปยังเขตเศรษฐกิจยุโรป(EEA) และสหภาพยุโรป(EU) ในเร็ว ๆ นี้
‘เจมิไน’ ได้จับมือกับ ‘แบงก์ ฟริก’ (Bank Frick) ธนาคารในลิกเตนสไตน์ เพื่อเปิดให้บริการชำระเงินด้วยดอลลาร์สหรัฐสำหรับนักลงทุนสถาบันในสหราชอาณาจักรและสวิตเซอร์แลนด์ โดย ‘มาร์ค เจนนิงส์’ หัวหน้าฝ่ายยุโรปของ ‘เจมิไน’ เปิดเผยว่า “เรามีแผนขยายบริการนี้ไปยังลูกค้าสถาบันใน EU ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์” ฟีเจอร์ดังกล่าวจะเปิดให้ใช้งานในยิบรอลตาร์, เจอร์ซีย์, เกิร์นซีย์ และเกาะแมนด้วย
สำหรับนักลงทุนสถาบันที่ใช้ ‘เจมิไน’ การอัปเดตนี้จะช่วยให้สามารถฝากและถอน ‘ดอลลาร์สหรัฐ’ จากบัญชีของแพลตฟอร์มได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม อีกทั้งยังสามารถซื้อขายคริปโตโดยใช้คู่เงินดอลลาร์ได้โดยตรง เดิมที นักเทรดจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงินปอนด์หรือยูโรเสียก่อน แต่ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ซึ่ง ‘เจนนิงส์’ กล่าวว่า “ขณะที่การยอมรับคริปโตของนักลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น เราเชื่อว่าการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมด้วยดอลลาร์สหรัฐจะช่วยยกระดับประสบการณ์การซื้อขายได้อย่างมาก”
‘เจมิไน’ ยังจะใช้บริการโอนเงินแบบเรียลไทม์ ‘xPulse’ ของ ‘แบงก์ ฟริก’ เพื่อให้ลูกค้าสามารถฝากเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนที่มีบัญชีกับธนาคารสามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ‘เจมิไน’ ยังมีแผนให้บริการชำระเงินด้วยโครงสร้างพื้นฐานของตนเองผ่านการใช้ใบอนุญาต ‘สถาบันเงินอิเล็กทรอนิกส์’ (EMI) ซึ่งแตกต่างจากผู้ให้บริการคริปโตรายอื่น ที่มักพึ่งพาผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ‘เจมิไน’ จึงมีข้อได้เปรียบด้านการจัดการสภาพคล่องและการสนับสนุนธุรกรรมได้โดยตรง
ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ‘เจมิไน’ ได้ยื่นเอกสารลับเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ (IPO) โดยสำนักข่าว ‘บลูมเบิร์ก’ รายงานว่าการ IPO นี้อาจได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินรายใหญ่ เช่น ‘โกลด์แมน แซคส์’ และ ‘ซิตี้กรุ๊ป’ ทั้งนี้ ‘เจมิไน’ ได้พิจารณาเรื่องการเข้าตลาดหุ้นมาตั้งแต่ปี 2021 และเคยพิจารณาการควบรวมกับ ‘ดิจิทัล เคอเรนซี กรุ๊ป’ (DCG) มาก่อน
ความคิดเห็น 0