ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังผลักดันนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ‘บิตคอยน์(BTC)’ ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% ทางรัฐบาลรัฐออนแทรีโอของแคนาดาก็เตือนว่าอาจขึ้นค่าธรรมเนียมการส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปยังสหรัฐฯ หรือในกรณีเลวร้ายที่สุดอาจตัดการส่งจ่ายพลังงาน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากภาคอุตสาหกรรมและความกังวลด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลออนแทรีโอก็แสดงท่าทีผ่อนปรนลง
เบน แกนนอน ซีอีโอของบริษัท ‘บิตฟาร์มส์(Bitfarms)’ ผู้ให้บริการขุดบิตคอยน์ในแคนาดา ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เมื่อไม่นานมานี้ว่า “แม้ว่าตลาดพลังงานของออนแทรีโอจะมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น แต่ศูนย์ขุดส่วนใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ในควิเบกและบริติชโคลัมเบีย ซึ่งมีระบบพลังงานน้ำที่มีเสถียรภาพ ดังนั้นผลกระทบโดยตรงจึงมีน้อย” อย่างไรก็ตาม เขายังเสริมว่า “นโยบายภาษีอาจส่งผลต่อกฎระเบียบและนโยบายในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ”
นโยบายพลังงานของแคนาดากลายเป็นประเด็นถกเถียงทางการเมือง โดยรัฐบาลพรรคเสรีนิยมที่นำโดย ‘มาร์ก คาร์นีย์’ กำลังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งอาจทำให้ขีดความสามารถทางการแข่งขันในบางอุตสาหกรรมลดลง หากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดายืดเยื้อ อาจทำให้บริษัทขุดบิตคอยน์ต้องมองหาสถานที่ที่มีแนวโน้มดีกว่าสำหรับการประกอบธุรกิจ
ในอีกมุมหนึ่ง นโยบายภาษีอาจสร้าง ‘โอกาสใหม่ๆ’ ให้กับบริษัทขุดคริปโต แกนนอนชี้ว่า “ถึงแม้ธุรกิจขุดบิตคอยน์จะควบคุมราคาไม่ได้ แต่สามารถบริหารต้นทุนพลังงานได้” เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า “การใช้พลังงานส่วนเกินที่เคยถูกใช้ในอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียม อาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และหากสหรัฐฯ ผลักดันการฟื้นฟูภาคการผลิต โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานนี้อาจกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง”
นอกจากนี้ มาตรการขึ้นภาษีสินค้าจีนของสหรัฐฯ ยังสร้างความท้าทายใหม่ให้กับอุตสาหกรรมขุดบิตคอยน์ โดยเฉพาะกับผู้ผลิตอุปกรณ์อย่าง ‘บิตเมน(Bitmain)’ ซึ่งได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดด้านซัพพลายเชน รวมถึงค่าธรรมเนียมศุลกากรที่เพิ่มขึ้น ‘วิษณุ มาเคนซี’ หัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ของ ‘คอมพาส ไมนิง(Compass Mining)’ ระบุว่า “ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนำเข้าอุปกรณ์จากบิตเมนอาจสูงถึง 500,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 18 ล้านบาท” เป็นผลให้บริษัทจีนหลายแห่งกำลังพิจารณากระจายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย
บิตเมนเคยประกาศแผนจัดตั้งโรงงานผลิตในสหรัฐฯ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อลดผลกระทบจากข้อจำกัดทางการค้า แต่ยังไม่ได้เปิดเผยตำแหน่งที่แน่ชัด ขณะที่นโยบายของทรัมป์ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง บริษัทขุดบิตคอยน์จึงต้องคอยติดตามและปรับกลยุทธ์อยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรป(EU) ก็กำลังพิจารณามาตรการตอบโต้ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดคริปโตทั่วโลกในอนาคต
ความคิดเห็น 0