บิตคอยน์(BTC) ยังคงแสดงผลตอบแทนที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสินทรัพย์หลักทั่วโลก แม้จะอยู่ในช่วง ‘ปรับฐาน’ ก็ตาม โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ, ตลาดหุ้น และทองคำ บิตคอยน์ยังคงรักษาแนวโน้มที่แข็งแกร่งได้
ตามรายงานของ Cointelegraph เมื่อวันที่ 20 มกราคม บิตคอยน์ทำสถิติราคาสูงสุดที่ 109,000 ดอลลาร์ในช่วงที่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ราคาลดลงประมาณ 23% นับตั้งแต่นั้น ขณะที่โทมัส ฟาร์เรอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Apollo Sats อ้างข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า "แม้ว่าจะมีการปรับฐาน แต่บิตคอยน์ยังคงให้ผลตอบแทนเหนือกว่าสินทรัพย์หลักทุกประเภท"
โอเรลี บาร์แต นักวิเคราะห์อาวุโสแห่งบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลคริปโต Nansen ให้ความเห็นว่าราคาของบิตคอยน์ที่ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 76,000 ดอลลาร์เป็น ‘การปรับฐานที่ดีต่อสุขภาพ’ ในตลาดขาขึ้น เขายังกล่าวอีกว่า "ทั้งตลาดหุ้นและตลาดคริปโตยังคงปรับตัวให้เข้ากับนโยบายภาษีและการลดสภาพคล่องจากภาครัฐ ซึ่งแม้จะมีการปรับฐานเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดหมีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว"
ตลาดกองทุน ETF ที่อ้างอิงบิตคอยน์ก็มีแนวโน้มเชิงบวกเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 17 มีนาคม กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตของสหรัฐมียอดเงินไหลเข้าสุทธิสูงถึง 274 ล้านดอลลาร์ นับเป็นตัวเลขสูงสุดต่อวันนับตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าการเพิ่มขึ้นของการลงทุนใน ETF อาจเป็นปัจจัยผลักดันราคาบิตคอยน์ในระยะต่อไป
เกรซี เฉิน ซีอีโอของ Bitget เชื่อว่าความเป็นไปได้ที่ราคาบิตคอยน์จะหลุดต่ำกว่า 70,000 ดอลลาร์นั้นค่อนข้างต่ำ และกล่าวเพิ่มเติมว่า "ช่วงราคาประมาณ 73,000-78,000 ดอลลาร์น่าจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ" นอกจากนี้ เธอยังคาดการณ์ว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า บิตคอยน์อาจมีโอกาสพุ่งขึ้นไปแตะ 200,000 ดอลลาร์
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมหลายคนยังคงมองว่าบิตคอยน์มีโอกาสปรับขึ้นต่อไป โดยมีการคาดการณ์ราคาสำหรับปี 2025 อยู่ระหว่าง 160,000-180,000 ดอลลาร์ พร้อมความคาดหวังว่าความต้องการจากสถาบันการเงินและปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคจะเป็นแรงสนับสนุนสำคัญให้กับแนวโน้มขาขึ้นของบิตคอยน์ต่อไป
ความคิดเห็น 0