ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ตลาดบิตคอยน์(BTC) เผชิญกับแรงกดดันจากการขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคายังคงถูกกดดัน อย่างไรก็ตาม บางฝ่ายมองว่าสถานการณ์นี้อาจเปิดโอกาสการลงทุนใหม่ได้ บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ‘คริปโตควอนท์(CryptoQuant)’ ระบุว่าตลาดบิตคอยน์ได้เข้าสู่ ‘ภาวะลดเลเวอเรจ’ (Deleveraging) ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับเลเวอเรจลดลงก่อนที่ตลาดจะปรับตัวอีกครั้ง โดยอ้างอิงจากกรณีศึกษาในอดีตที่เคยเกิดขึ้นลักษณะเดียวกัน ซึ่งส่งผลดีต่อนักลงทุนในระยะสั้นและระยะกลาง
นักวิเคราะห์ภายใต้นามแฝง ‘ดาร์กโพสต์(Darkfost)’ เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 มกราคมว่า มูลค่ามิเปิดสัญญาล่วงหน้า (Open Interest) ของบิตคอยน์ได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 336 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 49.5 ล้านล้านวอน ในขณะนั้น ราคาบิตคอยน์พุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์ เป็นผลมาจากแรงเก็งกำไรก่อนพิธีสาบานตนของ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ความไม่แน่นอนทางนโยบายการค้าของรัฐบาลชุดใหม่ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดสั่นคลอน ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลง
ประเด็นสำคัญที่สร้างแรงกดดันคือลัทธิคุ้มครองทางการค้าที่ ‘ทรัมป์’ ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะมาตรการกำแพงภาษีที่ส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ดิจิทัล ตามข้อมูลจาก ‘คริปโตควอนท์’ ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา มีการบังคับปิดสถานะ (Liquidation) ในตลาดบิตคอยน์มูลค่าสูงกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 14.7 ล้านล้านวอน โดยกระแสการล้างเลเวอเรจนี้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 4 มีนาคม ทำให้มูลค่ามิเปิดสัญญาล่วงหน้าลดลงเหลือ 230 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 34 ล้านล้านวอน
‘ดาร์กโพสต์’ ให้ความเห็นว่านี่เป็นกระบวนการปรับฐานที่เกิดขึ้นเป็นปกติ ก่อนที่ตลาดจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ข้อมูลจากการวิเคราะห์ความผันผวนของมูลค่ามิเปิดสัญญาล่วงหน้าในช่วง 90 วัน แสดงให้เห็นว่ามีการลดลงสูงสุดถึง -14% ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะสมดุลหลังจากช่วงที่มีเลเวอเรจสูง
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนระยะยาวยังคงถือบิตคอยน์ไว้อย่างแข็งแกร่ง รายงานจาก ‘คริปโตควอนท์’ ชี้ว่า บิตคอยน์ที่ถูกถือครองระหว่าง 3-6 เดือน มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ซึ่งคล้ายกับช่วงการสะสมเหรียญที่เกิดขึ้นในระหว่างตลาดขาลงกลางปี 2024
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า แม้ตลาดอาจมีความผันผวนในระยะสั้นเนื่องจากกระบวนการลดเลเวอเรจยังคงดำเนินต่อไป แต่ในระยะยาว สัญญาณเหล่านี้อาจนำไปสู่แนวโน้มเชิงบวกสำหรับบิตคอยน์ในอนาคต
ความคิดเห็น 0