TON Foundation ดึงดูดการลงทุนมหาศาลด้วยการขายโทเค็นมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นต่อระบบนิเวศบล็อกเชนของเทเลแกรม
เมื่อเร็วๆ นี้ TON Foundation ประกาศว่า การขายโทเค็นครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘กลยุทธ์ความร่วมมือ’ ที่มุ่งขยายระบบนิเวศของ TON นักลงทุนรายใหญ่ที่เข้าร่วมในรอบนี้ ได้แก่ Sequoia Capital, Ribbit, Benchmark, Draper Associates, Kingsway, B Capital, Libertus Capital, CoinFund, SkyBridge, Hypersphere และ Karatage ทั้งหมดนี้ลงทุนโดยการซื้อโทเค็น ‘ตันคอยน์(TON)’ ในปริมาณมาก
TON Blockchain เป็นเครือข่ายที่กระจายอำนาจ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับแอปพลิเคชันขนาดเล็กบนเทเลแกรม แม้ว่าเดิมจะพัฒนาโดยทีมก่อตั้งของเทเลแกรม แต่ปัจจุบันโครงการนี้ดำเนินการอย่างอิสระ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตันคอยน์ยังได้รับการกำหนดให้เป็นสกุลเงินดิจิทัลเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถใช้ชำระค่าบริการภายในแอปเทเลแกรม
ระบบนิเวศของ TON เติบโตอย่างรวดเร็ว จำนวนบัญชีบนเครือข่ายเพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านบัญชีในปีก่อนเป็น 41 ล้านบัญชีในปัจจุบัน ขณะที่จำนวนผู้ถือครองโทเค็นตันคอยน์ก็ทะลุ 121 ล้านรายแล้ว ทั้งนี้ มูลนิธิ TON ตั้งเป้าดึงดูดผู้ใช้เทเลแกรม 30% เข้าสู่เครือข่ายบล็อกเชน TON ภายใน 3 ปี
Peter Fenton หุ้นส่วนของ Benchmark แสดงมุมมองเชิงบวกต่อการขยายตัวของ TON โดยให้ความเห็นว่า “คาดว่าภายในปี 2030 จำนวนผู้ใช้ของเทเลแกรมจะทะลุ 1.5 พันล้านราย” สะท้อนถึงศักยภาพในการเติบโตของแพลตฟอร์ม
การลงทุนของบริษัทร่วมทุนในอุตสาหกรรมคริปโตและบล็อกเชนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง Simon Wu หุ้นส่วนของ Cathay Innovation กล่าวว่า “เทคโนโลยีคริปโตและบล็อกเชนมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในด้านการจัดการสินทรัพย์ การชำระเงิน และการโทเค็นสินทรัพย์” พร้อมเน้นย้ำว่าโครงการบล็อกเชนกำลังได้รับการยอมรับในระบบการเงินกระแสหลักทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก
รายงานล่าสุดระบุว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วงเงินลงทุนจากบริษัทร่วมทุนที่หลั่งไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมคริปโตสูงถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ โดย ‘การเงินไร้ศูนย์กลาง (DeFi)’ และ ‘โซลูชันบล็อกเชนสำหรับองค์กร’ เป็นกลุ่มที่ได้รับเงินทุนสูงสุด พร้อมกันนี้ ความสนใจในโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายศูนย์ (DePIN) และสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (RWA) ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความคิดเห็น 0