แพลตฟอร์มการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ ‘อินฟินิ(Infini)’ ตกเป็นเหยื่อของการแฮ็กมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,800 ล้านบาท) และได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้พัฒนาและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 24 อินฟินิเปิดเผยผ่านข้อความบนบล็อกเชนว่า ได้ยื่นฟ้องผู้พัฒนาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ได้แก่ เฉิน ซานซวน(Chen Shanxuan) พร้อมกับบุคคลนิรนามอีก 3 ราย ซึ่งถูกสงสัยว่ามีสิทธิ์เข้าถึงกระเป๋าเงินที่ใช้ในการโจมตี
อินฟินิระบุว่า ขณะนี้มีการพยายามกู้คืนสินทรัพย์จำนวน 49.5 ล้าน USDC (ประมาณ 1,790 ล้านบาท) และยังคงมีข้อพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ของเงินดังกล่าว โดยย้ำว่า ผู้ถือครองทรัพย์สินเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์อ้างสถานะ ‘ผู้ซื้อโดยสุจริต’ ได้
ศาลฮ่องกงได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว (injunction order) ผ่านกระเป๋าเงินนิรนามที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ โดยการแจ้งเตือนทางกฎหมายดังกล่าวแนบมากับหมายเรียกตัว ซึ่งบังคับให้จำเลยต้องมาปรากฏตัวตามคำสั่งศาล
หลังเกิดเหตุ อินฟินิได้เสนอเงื่อนไขให้แฮ็กเกอร์คืนเงินที่ถูกขโมย 80% และเก็บส่วนที่เหลือ 20% เป็นค่าตอบแทน หากยอมส่งคืน อินฟินิยืนยันว่า จะยุติการติดตามและการดำเนินการทางกฎหมาย พร้อมกับเปิดเผยว่า บริษัทสามารถระบุที่อยู่ IP และอุปกรณ์ที่ใช้ในโจมตี และกำลังเฝ้าติดตามกระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวดูเหมือนจะถูกปฏิเสธ เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณว่าเงินจำนวนนี้ถูกส่งคืน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากการแฮ็กครั้งใหญ่ของกระดานเทรด ‘ไบบิต(Bybit)’ ซึ่งเป็นหนึ่งในการโจมตีครั้งรุนแรงที่สุดของอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจากบริษัท ‘เฟียร์สออฟ(FearsOff)’ มาร์วัน ฮาเชม(Marwan Hachem) แสดงความคิดเห็นว่า “หลังจากไบบิตถูกโจมตี ช่วงเวลาของการโจมตีอินฟินิดูเหมือนจะถูกเลือกอย่างมีเจตนา เพื่ออาศัยความสับสนในตลาด”
ด้วยจำนวนเหตุการณ์แฮ็กในโลกคริปโตที่เพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยและการดำเนินการทางกฎหมาย อินฟินิเองก็เดินหน้าทางกฎหมายอย่างแข็งขัน และเป็นที่น่าจับตามองว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ความคิดเห็น 0