โดจิคอยน์(DOGE) ราคาพุ่งขึ้น 7% ใน 24 ชั่วโมง แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ราคาโดจิคอยน์(DOGE) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% ภายใน 24 ชั่วโมง โดยแตะระดับสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 0.189 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับราคาสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาคือการประกาศเปิดตัว ‘กองทุนสำรองโดจิคอยน์(Dogecoin Reserve)’ ของมูลนิธิโดจิคอยน์ รวมถึงกระแสความสนใจในเหรียญอัลท์คอยน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม มูลนิธิโดจิคอยน์เปิดเผยว่ากองทุนสำรองดังกล่าวถูกตั้งขึ้นเพื่อยกระดับเสถียรภาพและเสริมความน่าเชื่อถือของโดจิคอยน์ในระยะยาว โดยมูลนิธิได้เข้าซื้อเหรียญ DOGE จำนวน 10 ล้านโทเค็น คิดเป็นมูลค่าราว 1.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 263 ล้านบาท) นักวิเคราะห์มองว่าการเข้าซื้อครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า นักลงทุนสถาบันเริ่มให้ความสนใจตลาดเหรียญมีมมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันราคา DOGE
ความคาดหวังต่อ ‘สปอต ETF โดจิคอยน์’ กำลังเติบโต
ตลาดยังคงจับตาทิศทางราคา DOGE อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่เริ่มมีการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปิดตัว ‘สปอต ETF ของโดจิคอยน์’ มากขึ้น ล่าสุดข้อมูลจาก Polymarket ชี้ว่า ความเป็นไปได้ที่ DOGE ETF จะได้รับการอนุมัติภายในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 72% จากเดิมที่ 27% เมื่อต้นปี
ขณะเดียวกัน แนวโน้มขาขึ้นของโดจิคอยน์ก็เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดอัลท์คอยน์โดยรวมกำลังอยู่ในภาวะกระทิง ล่าสุดมูลค่าตลาดรวมของอัลท์คอยน์อยู่ที่ 1.08 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 1,577 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1.60% ภายในวันเดียว ในขณะที่บิตคอยน์(BTC) กลับเผชิญแรงขายและมูลค่าตลาดลดลง 0.61% สะท้อนให้เห็นถึงการโยกย้ายเงินทุนจากสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างบิตคอยน์ไปสู่อัลท์คอยน์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า
ความเห็นจากตลาด
แนวโน้มดังกล่าวอาจได้รับแรงหนุนจากคำแถลงล่าสุดของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการทางการค้า ซึ่งช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง DOGE ที่มักได้รับความนิยมในช่วงตลาดกระทิงของอัลท์คอยน์
นอกจากนี้ ตลาดฟิวเจอร์สของโดจิคอยน์ยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการเก็งกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม มูลค่ารวมของสัญญาคงค้าง(Open Interest) ในตลาดฟิวเจอร์สของ DOGE เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.63 แสนล้านบาท) จาก 1.33 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.94 แสนล้านบาท) เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ขณะที่อัตราการระดมทุน(Funding Rate) รายสัปดาห์ของ DOGE พลิกกลับจากติดลบมาอยู่ที่ 0.157% เมื่อวันที่ 21 มีนาคม สะท้อนว่าตลาดกำลังให้น้ำหนักกับออเดอร์ซื้อ (Long Position) มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ให้เห็นว่า DOGE ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ภายใน ‘รูปแบบธงขาลง (Bear Flag)’ ซึ่งเป็นสัญญาณของการพักตัวภายหลังจากราคาปรับขึ้น หาก DOGE หลุดระดับแนวรับของรูปแบบดังกล่าว อาจมีโอกาสร่วงลงอีก 35% ไปแตะระดับ 0.117 ดอลลาร์ภายในเดือนเมษายน แต่หากสามารถทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ ราคาอาจพุ่งสู่ระดับ 0.214 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นบริเวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน
ถึงแม้ว่าแนวโน้มขาขึ้นของ DOGE จะยังมีอยู่ แต่ตลาดยังคงมีความผันผวนสูง นักลงทุนจึงควรติดตามสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิดและกำหนดกลยุทธ์การลงทุนอย่างรอบคอบ
ความคิดเห็น 0