วิดีโอคลิปสั้นที่แสดงให้เห็น วีทาลิก บูเทอริน ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) คุกเข่าต่อหน้า ‘หุ่นยนต์สี่ขา’ และส่งเสียงคล้ายแมว กลายเป็นที่พูดถึงในแวดวงคริปโตเมื่อวันที่ 29 โดยถูกตีความอย่างหลากหลายในหมู่นักลงทุน ว่าท่าทีแปลกประหลาดดังกล่าวจะส่งผลต่อ ‘อนาคตของอีเธอเรียม’ หรือไม่
ในคลิป บูเทอรินทำเสียง "เมี้ยว" แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวหุ่นยนต์ สร้างกระแสตอบรับหลากหลายทางโซเชียล หนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังกล่าวว่า "ผู้ชายคนนี้ถือชะตาอีเธอเรียมไว้ในมือ... เมี้ยว" ขณะที่นักลงทุนบางรายกลับมองว่า ภาพที่ไม่คาดฝันนี้ ‘อาจเป็นสัญญาณซื้อ’ และ ฟิล โวเกล ผู้ร่วมก่อตั้งคอร์ก โปรโตคอล ก็เห็นว่าคลิปนี้ยิ่งตอกย้ำมุมมองในแง่ดี เพราะอาชีพและสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของเขาผูกกับบูเทอริน
ในแวดวงการเงิน การกระทำของบุคคลสาธารณะย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของสินทรัพย์ ผู้วิเคราะห์คริปโตรายหนึ่งให้ ความคิดเห็น ว่า "ใครจะทำเสียงแมวต่อหน้าหุ่นยนต์ก็ได้อยู่หรอก แต่พอรู้ว่าทรัพย์สินเราผูกกับเขาอยู่ ความรู้สึกมันก็ไม่เหมือนเดิม" ด้านเทรดเดอร์รายหนึ่งแสดงความกังวลว่า ในขณะที่ราคาอีเธอเรียมร่วง 5% ภายในหนึ่งนาที “บูเทอรินยังเล่นหัวหุ่นยนต์อยู่เลย” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการตั้งคำถามต่อความจริงจังของผู้นำโครงการ
ปัจจุบันราคาอีเธอเรียมกำลังอยู่ในแนวโน้มขาลง หลังจากทะลุระดับ $4,000 ได้ในเดือนธันวาคม 2024 ล่าสุดร่วงลงมาอยู่ที่ประมาณ $1,841 หรือราว 269,000 บาท คิดเป็นการลดลงราว 55% โดยเฉพาะในช่วงเดือนที่ผ่านมา ราคาหล่นลงถึง 13% ด้านนักลงทุน อเล็กซ์ เบคเกอร์ เชื่อว่า การเข้าลงทุนในอีเธอเรียมต่ำกว่า $2,000 อาจถือเป็น ‘โอกาสที่ดีที่สุด’ สำหรับการเก็งกำไรในระยะ 2 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางกลุ่มมองไปไกลกว่าพฤติกรรมของบูเทอริน และหันมาให้ความสนใจกับข้อจำกัดโครงสร้างของอีเธอเรียมแทน นิค คาร์เตอร์ จากแคสเซิลไอแลนด์เวนเจอร์ส ให้ ความคิดเห็น ว่า โซลูชันเพิ่มขนาดของระบบอย่าง Layer 2 กำลังฉุดค่างานของเมนเชนลง นอกจากนี้เขายังวิจารณ์ถึงการออกโทเคนส่วนเกิน โดยไม่มีเสียงคัดค้านจากชุมชนด้วยว่า เป็นอีกปัจจัยที่ลดเสน่ห์ในการลงทุนในอีเธอเรียม
บูเทอรินไม่ใช่คนแปลกหน้าในแง่ของการสื่อสารที่ไม่ธรรมดา ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน 2024 เขาเคยร้องเพลงล้อเลียนธีมของโปรเจกต์บางรายบนเวทีงาน Token2049 ที่สิงคโปร์ สร้างกระแสฮือฮาบนโซเชียลอีกเช่นกัน ด้วยนิสัยสุดเฉพาะตัวของเขา คลิป ‘เสียงแมวต่อหน้าหุ่นยนต์’ นี้ อาจกลายเป็นกระแสไวรัลชั่วคราว มากกว่าจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือระยะยาวของ *อีเธอเรียม*
ความคิดเห็น 0