วงการคริปโตเผชิญความปั่นป่วนอีกครั้ง เมื่อมี *อีเมลฟิชชิง* แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อ้างว่าแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล *เจมิไน(Gemini)* ได้ยื่นขอล้มละลายต่อศาลสหรัฐฯ ตามมาตรา 11 สร้างความสับสนให้กับนักลงทุนเป็นวงกว้าง อีเมลดังกล่าวมีเนื้อหาเท็จ โดยระบุว่าผู้ใช้งานควรรีบถอนสินทรัพย์ทั้งหมดไปยัง *กระเป๋าเงิน Exodus* พร้อมแนบ 'ซีดวลี' ซึ่งเป็นรหัสสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงิน หวัง *ล่อลวงเหยื่อ* ให้มอบสิทธิ์เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่รู้ตัว
อีเมลฟิชชิงนี้พยายามสร้างความน่าเชื่อถือด้วยรายละเอียดที่แนบเนียน โดยอ้างว่าเหตุสะท้านวงการอย่าง ‘เหตุการณ์แฮก’ ในช่วงปลายปี 2024 ทำให้ *เจมิไนสูญเสียสินทรัพย์จากคอลด์วอลเล็ตไปถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ 1.75 หมื่นล้านบาท พร้อมเสริมว่าแพลตฟอร์มไม่สามารถดำเนินกิจการต่อได้ด้วยปัญหาด้านการกำกับดูแล จึงต้องยื่นขอล้มละลายในวันที่ 31 มีนาคม 2025 เนื้อหาหลอกลวงดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อจูงใจให้ผู้ใช้งานส่งมอบคีย์ส่วนตัวโดยสมัครใจ *ภายใต้ข้ออ้างของการปกป้องทรัพย์สินของตนเอง*
ความพยายามครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น *เกมจิตวิทยา* ที่อาศัยความแตกตื่นของผู้คนในช่วง *วันเมษาหน้าโง่ (April Fools’ Day)* เพื่อขยายผลให้เกิดความสับสน หลายรายเกือบตกเป็นเหยื่อโดยการย้ายสินทรัพย์ออกจากบัญชีหรือคลิกเข้าลิงก์ต้องสงสัย ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า นี่คือตัวอย่างคลาสสิกของ *ฟิชชิง* ที่อาศัยความรู้สึกตื่นตระหนกเป็นเครื่องมือ และแนะนำให้ผู้ใช้งานตรวจสอบ *ที่อยู่อีเมลผู้ส่ง, การสะกดโดเมน* รวมถึง *ภาษาที่พยายามเร่งเร้าให้รีบดำเนินการ*
บุคลากรในวงการคริปโตต่างย้ำเตือนว่า หากเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น *การล้มละลายของแพลตฟอร์มใหญ่* อย่างเจมิไน ข้อมูลจะถูกเปิดเผยผ่าน *ช่องทางอย่างเป็นทางการเท่านั้น* พร้อมขอให้ผู้ใช้งาน *เพิกเฉยต่ออีเมลหรือข้อความแปลกปลอม* ที่ขอข้อมูลส่วนตัวโดยเฉพาะ ‘*คีย์วลีสำรอง (Seed Phrase)*’ หรือที่อยู่กระเป๋าเงิน เนื่องจากการร้องขอดังกล่าวเป็น ‘*กลลวง 100%*’ ที่ควรถูกลบทิ้งทันที
*ความคิดเห็น:* เหตุการณ์ครั้งนี้เน้นให้เห็นว่าแม้เทคโนโลยีจะพัฒนาขึ้น แต่ภัยคุกคามก็ซับซ้อนขึ้นตามไปด้วย ผู้ใช้งานคริปโตจึงไม่ควรพึ่งพาเพียงระบบป้องกันอัตโนมัติ แต่ควรเสริม ‘*สติปัญญาด้านความปลอดภัย*’ และ ‘*ความรู้เท่าทัน*’ ให้เท่าทันภัยแฝงในโลกออนไลน์ที่พร้อมเล่นงานอยู่ทุกขณะ
ความคิดเห็น 0