ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันสูงจากการหมดอายุของสัญญาออปชันบิตคอยน์(BTC)และอีเธอเรียม(ETH)ในช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม สัญญาออปชันมูลค่ารวมกว่า 14,210 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 20.7 ล้านล้านวอน) ได้สิ้นสุดลง ซึ่งตรงกับวันศุกร์สุดท้ายของไตรมาสและของเดือน มีนาคม ส่งผลให้ความผันผวนในตลาดพุ่งสูงตามคาด
สัญญาบิตคอยน์หมดอายุมีมูลค่าถึง 12,075 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17.6 ล้านล้านวอน) โดย ‘อัตราส่วนพุต-คอล’ อยู่ที่ 0.49 ซึ่งชี้ว่าจำนวนคอลออปชันมีมากกว่าพุตออปชัน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นในทิศทางขาขึ้น ขณะที่ ‘จุดแม็กซ์เพน’ หรือราคาที่สร้างความเจ็บปวดสูงสุดแก่ผู้ถือสัญญาทั้งสองฝั่งอยู่ที่ 85,000 ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปัจจุบันที่ 85,960 ดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาส *ราคาปรับตัวลงเล็กน้อย*
การหมดอายุในรอบนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของสถานะคงค้างทั้งหมด (open interest) โดยบิตคอยน์ครองสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 80% เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาด ส่วนฝั่งอีเธอเรียม สิ้นสุดสัญญามูลค่า 2,135 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.1 ล้านล้านวอน) ซึ่งมีจุดแม็กซ์เพนอยู่ที่ 2,400 ดอลลาร์ และอัตราส่วนพุต-คอลที่ 0.39 บ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงเดิมพันในทิศทางขาขึ้น แต่ราคายังไม่แสดงแรงขับเคลื่อนที่ชัดเจน โดยกราฟความผันผวนยังคงทรงตัวอย่างค่อนข้างเสถียร
ข้อมูลจาก Deribit ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลตลาดคริปโต ระบุว่าสัญญาออปชันในรอบนี้ใหญ่กว่าปกติเนื่องจากเป็นการสิ้นสุดไตรมาส เทียบกับสัปดาห์ก่อนที่บิตคอยน์มีมูลค่าสัญญาหมดอายุเพียง 1,800 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ความสอดคล้องกับตลาดการเงินดั้งเดิมได้เพิ่มมิติด้าน *ความผันผวน* ให้ตลาดคริปโตอย่างชัดเจน
นักวิเคราะห์จาก Greeks.live ชี้ว่า บิตคอยน์อาจ *กลับไปทดสอบแนวรับในช่วง 84,000 - 85,000 ดอลลาร์* หลังรอบนี้สิ้นสุด และมีโอกาสแสดงทิศทางใหม่อย่างชัดเจน แนวต้านสำคัญถูกระบุไว้ที่ 88,400 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับหลักอยู่ที่ 77,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี บรรยากาศการลงทุนโดยรวมกำลังอยู่ในภาวะ *หวาดกลัวอย่างรุนแรง* โดยดัชนีความกลัวและความโลภ(Fear & Greed Index) อยู่ที่ระดับ 33 นอกจากนี้ การเคลื่อนย้ายบิตคอยน์จำนวนมากโดยรัฐบาลสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนที่เกิดจากคำเตือนเรื่อง ‘มาตรการภาษี’ ของประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ยิ่งทำให้แรงกดดันในตลาดระยะสั้นทวีขึ้น
ในฝั่งของอีเธอเรียม แม้ราคาจะยังทรงตัว แต่ปริมาณการซื้อขายยังคงสูง ขณะที่นักเทรดเริ่มหันมาปรับกลยุทธ์ตามการเปลี่ยนแปลงของ ‘ความผันผวนโดยนัย’ หรือ IV ขณะเดียวกันก็มีหลายเสียงมองว่า *บิตคอยน์ต้องทะลุแนวต้าน 90,000 ดอลลาร์* ให้ได้ จึงจะสามารถยืนยันแนวโน้มตลาดกระทิงอย่างมั่นคง
ถึงแม้ว่าการหมดอายุของสัญญาออปชันจะยังไม่ได้บ่งบอกทิศทางหลักให้ตลาดในทันที แต่ก็เปิดโอกาสให้เกิดการปรับฐานหรือเบรกเทรนด์ในช่วงถัดไป โดยตลาดยังคงต้องจับตามอง ‘ทิศทางเงินทุนของนักลงทุนรายใหญ่’ และ ‘ตัวแปรมหภาค’ ที่อาจเปลี่ยนทิศทางตลาดในระยะสั้นถึงกลางต่อไป
ความคิดเห็น 0