Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ESMA เตือนคริปโตอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเงินโลก แม้ยังครองสัดส่วนน้อย

Wed, 09 Apr 2025, 12:21 pm UTC

ESMA เตือนคริปโตอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเงินโลก แม้ยังครองสัดส่วนน้อย / Tokenpost

สำนักงานกำกับหลักทรัพย์แห่งยุโรป (ESMA) ได้แสดงความกังวลว่า การเติบโตของตลาดคริปโตและความเชื่อมโยงที่เพิ่มขึ้นกับการเงินแบบดั้งเดิม อาจกลายเป็น ‘ภัยคุกคาม’ ต่อเสถียรภาพของระบบการเงินในอนาคต

เมื่อวันที่ 8 ตามเวลาท้องถิ่น ณ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและการเงินของรัฐสภายุโรป (ECON) นาตาชา คาเซเนฟ(Natasha Cazenave) เลขาธิการ ESMA กล่าวว่า หากราคา *สินทรัพย์ดิจิทัล* เกิดการร่วงลงอย่างรุนแรง อาจเกิดแรงกระเพื่อมต่อระบบการเงินแบบเดิมโดยไม่อาจมองข้ามได้

แม้คาเซเนฟจะระบุว่า ปัจจุบันคริปโตคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของสินทรัพย์การเงินทั่วโลก จึงยังไม่สามารถก่อให้เกิด ‘ภัยโดยตรง’ ต่อระบบการเงินทั้งหมด แต่เธอเน้นว่า ความเชื่อมโยงระหว่าง *คริปโต* กับ *การเงินแบบดั้งเดิม* กำลังแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐ จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง “แม้ตลาดที่มีขนาดเล็กจะเกิดความปั่นป่วน ก็สามารถกลายเป็นตัวจุดชนวนที่กระทบต่อเสถียรภาพการเงินโดยรวม” เธอกล่าว

คาเซเนฟยังชี้ให้เห็นถึงปัจจัยเสี่ยงที่หลากหลาย ทั้งการเพิ่มขึ้นของ ETF สินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดสปอต การนำ *เหรียญเสถียร* มาใช้มากขึ้น การโจมตีทางไซเบอร์ ไปจนถึง *การฉ้อโกงการลงทุน* โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์ *แฮกกว่า 1.4 หมื่นล้านวอน* จากแพลตฟอร์ม ไบบิต(Bybit) และกรณีล้มละลายของ FTX เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022

เพื่อตอบโต้ความเสี่ยงจากตลาดคริปโต สหภาพยุโรปได้ประกาศใช้ *กฎหมายควบคุมตลาดคริปโต (MiCA)* เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโต คาเซเนฟยืนยันว่า แม้จะมีกฎเกณฑ์แล้ว แต่ “ไม่เคยมีสินทรัพย์ดิจิทัลใดที่ปลอดภัย 100%” พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจมี *มาตรการใหม่* เพิ่มเติมในอนาคต

ถ้อยแถลงของคาเซเนฟเกิดขึ้นท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาดการเงินโลก โดย *ทรัมป์* ยังคงเดินหน้านโยบายการค้าผ่าน ‘ภาษีศุลกากร’ ส่งผลให้ตลาดคริปโตและหุ้นร่วงลงสองหลักพร้อมกัน สะท้อนภาวะ *วิตกกังวลของนักลงทุน*

แม้โดยรวมแล้วยุโรปยังล่าช้ากว่าสหรัฐในด้าน *การนำคริปโตไปใช้จริง* คาเซเนฟเปิดเผยว่า ปัจจุบันกว่า 95% ของธนาคารยุโรปยังไม่ยุ่งเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ในฝั่งผู้ลงทุนทั่วไปกลับเริ่มเข้าไปลงทุนมากขึ้น โดยราว 10-20% ของนักลงทุนยุโรปถือครองคริปโต ซึ่งใกล้เคียงกับกระแสการลงทุนทั่วโลก

ขณะที่ในสหรัฐ การใช้คริปโตเข้าสู่กระแสหลักได้ไวกว่ายุโรป โดยมีคนอเมริกันประมาณ 15-28% ถือครองคริปโต และสถาบันการเงินก็กำลังเร่งเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ความเคลื่อนไหวนี้เปรียบเสมือนแรงกดดันให้ *หน่วยงานกำกับของยุโรป* ต้องดำเนินการมากกว่าที่เคย ทั้งด้านการกำกับดูแลและการเฝ้าระวังเชิงรุก

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1