ราคาของโทเคนพาย(Pi Network) กำลังเผชิญ ‘ความเสี่ยงการปรับฐานลง’ อีกครั้ง ท่ามกลางกระแสการปล่อยเหรียญเข้าสู่ตลาดจำนวนมหาศาลตลอดเดือนเมษายน โดยมีการคาดการณ์ว่า *แรงขายจากผู้ถือครอง* จะเพิ่มสูงขึ้นจากอุปทานที่มากขึ้น
ตามข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ปรากฏว่ามีโทเคนพายกว่า 1.5 ล้านเหรียญถูกปล่อยเข้าสู่ตลาด ซึ่งถือเป็นสัญญาณแรกของ *การอ่อนตัวของราคา* และยังมีแผนการอัดฉีดเหรียญเพิ่มเติมอีก 9.8 ล้านเหรียญในวันที่ 18 ซึ่งเป็นจำนวนครั้งเดียวที่มากที่สุดในประวัติการณ์ ปัจจุบันมีโทเคนพายถูกหมุนเวียนในตลาดประมาณ 6.8 พันล้านเหรียญ ขณะที่มากกว่า 5.1 พันล้านเหรียญยังถูกล็อกไว้และอาจถูกจำหน่ายในอนาคต
นอกจากนี้ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีโทเคนประมาณ 2 ล้านเหรียญถูกย้ายไปยังกระเป๋าเงินของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน คาดว่าเป็นความพยายามในการ *แปลงสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินสด* ซึ่งน่าจะสร้างแรงกดดันต่อราคาในระยะสั้นอย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลของแพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโต ‘Piscan’ พบว่าปริมาณโทเคนพายที่เข้าสู่ตลาดเกินความคาดหมายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มแสดงความกังวลต่อเสถียรภาพของราคา
สำหรับราคาล่าสุดของโทเคนพาย เมื่อวันที่ 5 เมษายน อยู่ที่ระดับต่ำสุดตลอดกาลที่ 0.40 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 580 บาท) ก่อนจะเด้งขึ้นไปที่ 0.75 ดอลลาร์ (1,100 บาท) ในวันถัดมา และกลับลดลงอีกครั้งที่ประมาณ 0.57 ดอลลาร์ (830 บาท) สะท้อนความคลอนแคลนของตลาดโดยรวม
นักลงทุนรายหนึ่งในไทยให้ *ความคิดเห็น* ผ่านโซเชียลมีเดียว่า “การเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดไม่ใช่การปรับฐานธรรมดา แต่ใกล้เคียงกับภาวะตื่นตระหนกขายทิ้งเสียมากกว่า” พร้อมเตือนว่า “เรามีโอกาสเห็นโทเคนพายร่วงลงแตะระดับ 0.314 ดอลลาร์ (ประมาณ 460 บาท) มากกว่าจะขึ้นไปถึงตัวเลขสัญลักษณ์อย่าง 3.14 ดอลลาร์”
แม้จะมีฝั่งมองบวกว่าโทเคนพายอาจพุ่งทะยานถึง 314 ดอลลาร์ได้ในอนาคต แต่ก็เป็นสมมุติฐานที่ต้องการมูลค่าตลาดระดับ *หลายล้านล้านบาท* ซึ่งในทางปฏิบัติยังห่างไกลจากความเป็นจริง
ในขณะที่ชุมชน Pi Network ยังคงแอคทีฟและมีการทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง แต่วงการชี้ว่า ‘ปัญหาอุปทานล้นตลาด’ กำลังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างมูลค่าระยะยาว หากไม่มีการพิสูจน์การใช้งานในเชิงพาณิชย์อย่างแท้จริง กระแสแรงขายทางเทคนิคจะยังคงครอบงำเหนือความคาดหวังของนักลงทุนต่อไป
ความคิดเห็น 0