ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ตลาดการเงินโลกเกิดความผันผวน บิตคอยน์(BTC)กลับยังคงรักษาเสถียรภาพไว้ได้อย่างน่าจับตา อาดัม แบ็ก(Adam Back) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบล็อกสตรีม(Blockstream) วิเคราะห์ว่า แม้เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงอย่างการประกาศเรียกเก็บภาษีกะทันหันของประธานาธิบดีทรัมป์ บิตคอยน์ยังคงแสดงให้เห็นถึง ‘ความแข็งแกร่ง’ อย่างมีนัยสำคัญ
แบ็กระบุว่า แม้บิตคอยน์อาจเคลื่อนไหวคล้ายกับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นในระยะสั้น แต่เมื่อมองในระยะยาว สินทรัพย์ดิจิทัลชนิดนี้มีทิศทางที่ ‘แตกต่างอย่างชัดเจน’ ในการให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ระหว่างงานสัปดาห์บล็อกเชนที่กรุงปารีส เขาเปิดเผยว่า “ในช่วงสามปีที่ผ่านมา บิตคอยน์ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 5-6 เท่าจากจุดต่ำสุด และตอนนี้ถือว่าหลุดพ้นจากปัจจัยกระทบแบบเดียวกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิมไปเรียบร้อย"
อาดัม แบ็ก ซึ่งเคยมีบทบาทในการพัฒนาระบบบิตคอยน์ตั้งแต่ยุคแรกๆ เชื่อว่าการยอมรับในระดับสถาบัน ความชัดเจนด้านกฎระเบียบ และการแพร่หลายของกองทุน ETF จะเป็น ‘แรงผลักดันสำคัญ’ ต่อการเติบโตในอนาคต เขากล่าวว่า “ผู้ถือระยะยาวส่วนใหญ่ตอนนี้อยู่ในสถานะ ‘ถือเต็มพอร์ต’ แล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะซื้อในราคาต่ำ อย่างไรก็ตาม สถาบันอย่างแบล็คร็อก(BlackRock) หรือบรรดากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ กำลังดูดซับอุปทานอย่างเงียบๆ"
ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ แบ็กยังชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ ‘ระดับประเทศ’ อาจเริ่มสะสมบิตคอยน์ โดยกล่าวว่า “หากรัฐบาลสหรัฐไม่เริ่มซื้อบิตคอยน์ให้ได้ถึง 1 ล้านเหรียญภายใน 5 ปีข้างหน้า โอกาสในการเข้าสะสมสินทรัพย์จะตกไปอยู่ในมือของนักลงทุนใหม่ที่เข้ามาผ่าน ETF หรือโบรกเกอร์แทน”
แม้จะเผชิญกับความผันผวนในระยะสั้น แต่นักพัฒนารายนี้ยังมองว่าทิศทางในระยะกลางยัง ‘แข็งแกร่ง’ โดยเขาเสริมว่า “ในช่วงขาขึ้น มักจะเกิดการปรับฐานประมาณ 30% ถึงหกครั้ง ซึ่งตอนนี้อาจเป็นหนึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว”
*ความคิดเห็น*: แนวคิดของแบ็กสะท้อนมุมมองจากทั้งด้านเทคนิคและภาพใหญ่ของระบบโครงสร้างคริปโต น่าสนใจว่าหากการสะสมจากภาคสถาบันเดินหน้าต่อ บิตคอยน์อาจก้าวอีกขั้นสู่การเป็นสินทรัพย์หลักทางเศรษฐกิจในระดับโลก
ความคิดเห็น 0