Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

DOJ ยุบหน่วยบังคับใช้คริปโต NCET ตามแนวทรัมป์ เตรียมลดการดำเนินคดีสินทรัพย์ดิจิทัล

Thu, 10 Apr 2025, 08:25 am UTC

DOJ ยุบหน่วยบังคับใช้คริปโต NCET ตามแนวทรัมป์ เตรียมลดการดำเนินคดีสินทรัพย์ดิจิทัล / Tokenpost

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ได้ประกาศยุบหน่วยงานเฉพาะกิจด้านอาชญากรรมคริปโตอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดเผยแนวทางใหม่ว่า จะลดการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลลงอย่างมาก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนเจตนารมณ์ของ *ทรัมป์* ที่ต้องการผ่อนคลายกฎระเบียบ และถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ภาคอุตสาหกรรมคริปโตรอคอย

เมื่อวันที่ 8 ท็อดด์ แบลงช์ (Todd Blanche) รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ส่งหนังสือเวียนภายใน ประกาศ ‘ยุบหน่วยบังคับใช้คริปโตแห่งชาติ (NCET)’ ในทันที พร้อมยืนยันว่า DOJ จะยุติกลยุทธ์ ‘บังคับใช้ผ่านการดำเนินคดี’ ที่ใช้มาในอดีต และจะไม่ถือครองอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเป้าหมายทางอาญาอีกต่อไป เว้นแต่ในกรณีที่มีหลักฐานการกระทำผิดจริง

แบลงช์กล่าวว่า “กระทรวงยุติธรรมไม่ใช่หน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล” พร้อมวิจารณ์การดำเนินคดีจำนวนมากในอดีตว่า “ไม่เหมาะสมและผิดพลาด” โดยได้สั่งให้หยุดการฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมาย เช่น กฎหมายความลับทางการเงิน (BSA), การให้บริการโอนเงินโดยมิได้รับอนุญาต รวมถึงการละเมิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ในกรณีที่ไม่ใช่การฉ้อโกงเป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้หยุดการสืบสวนที่อาจส่งผลกระทบกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น กระดานเทรดคริปโต, บริการผสมเหรียญ (mixer) และวอลเล็ตแบบออฟไลน์ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ใช้งานเป็นฝ่ายละเมิดกฎเอง ซึ่งอาจทำให้หลายคดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินการถูกปิดแฟ้มในเร็ว ๆ นี้หากไม่สอดคล้องกับแนวทางใหม่

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจากผู้เล่นในอุตสาหกรรม โดยมองว่าเป็น ‘สัญญาณ’ ที่จะเปิดทางให้ตลาดอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ได้เติบโตภายใต้กฎเกณฑ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น *อแมนดา ทูมิเนลลี* (Amanda Tuminelli) กรรมการบริหาร *DeFi Education Fund* ก็ได้แชร์คำสั่งดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียและเรียกมันว่า “ชัยชนะของอุตสาหกรรม”

สำหรับ NCET นั้นเคยรับผิดชอบคดีสำคัญหลายรายการ รวมถึงกรณีการดำเนินคดีต่อ *Tornado Cash* — บริการการผสมเหรียญบนบล็อกเชนอีเธอเรียม ที่มีการจับกุมนักพัฒนา *โรมัน สตอร์ม* เมื่อปี 2023 ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องฟอกเงินและละเมิดมาตรการคว่ำบาตร แม้นักพัฒนาจะยืนยันว่าการสร้างบริการแบบไม่ต้องขออนุญาตและต่อต้านการเซ็นเซอร์นั้น ไม่ได้มีเจตนาส่งเสริมอาชญากรรมก็ตาม

อีกตัวอย่างคือ *Samourai Wallet* ซึ่งเป็นวอลเล็ตแบบไม่เก็บเงินของผู้ใช้ (non-custodial) ที่ให้บริการฟีเจอร์ผสมเหรียญบนเครือข่ายบิตคอยน์ และถูกดำเนินคดีเช่นกัน แม้ไม่มีหลักฐานว่าทีมผู้พัฒนาเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินโดยตรง เหตุการณ์นี้เองที่จุดประเด็นถกเถียงในวงการว่า หน่วยงานรัฐมองเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์อย่างไม่เป็นธรรม

การยุบ NCET ยังเป็นส่วนหนึ่งของกระแส *ผ่อนคลายกฎเกณฑ์* ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ *ทรัมป์* เข้ารับตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมกราคม หน่วยงานกำกับดูแลตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอย่าง *คณะกรรมการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (CFTC)* ก็ปรับลดขนาดทีมที่ดูแลคริปโตเหลือเพียงหน่วยเดียว สะท้อนถึงนโยบายลดการแทรกแซงของรัฐบาลกลาง

แนวทางล่าสุดของ *ทรัมป์* ส่งสัญญาณชัดเจนว่า เขายืนอยู่ข้างอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจและนักพัฒนาด้านบล็อกเชนในสหรัฐฯ มีความหวังมากขึ้นว่า รัฐบาลจะสนับสนุน ‘การเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ’ โดยการให้ *เสรีภาพทางนวัตกรรม* ควบคู่กับ *การคุ้มครองผู้เสียหายจากอาชญากรรม* อย่างสมดุลในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความหลัก

คราเคนเตรียมซื้อ ‘นินจาเทรดเดอร์’ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ รุกตลาดฟิวเจอร์สสหรัฐฯ

Garantex กลับมาในชื่อ Grinex? รายงานชี้อาจเป็นแพลตฟอร์มสืบทอด

บักต์(Bakkt) ปรับโครงสร้างธุรกิจ หลังสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ หุ้นร่วง 27%

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1