มาตรการเลื่อนเก็บภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ส่งแรงสั่นสะเทือนต่อ *ตลาดการเงินทั่วโลก* จนทำให้ *ตลาดคริปโต* พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ทรัมป์ประกาศชะลอการทำสงครามภาษีกับประเทศต่าง ๆ เป็นเวลา 90 วัน และหลังข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป สกุลเงินดิจิทัลหลักต่างก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวงกว้าง *บิตคอยน์(BTC)* กระโดดจาก 76,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปแตะ 82,000 ดอลลาร์ภายในไม่กี่ชั่วโมง ขณะที่ *อีเธอเรียม(ETH)* และ *ริปเปิล(XRP)* พุ่งขึ้น 15% และ 15.3% ตามลำดับ โดยมีการซื้อขายสูงกว่า 1,600 ดอลลาร์ และ 2 ดอลลาร์ตามลำดับ
การชะลอเก็บภาษีครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นสัญญาณบวกต่อความตึงเครียดทางการค้า ซึ่งได้กดดันตลาดตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวนี้ยังจุดกระแสซื้อคืนอย่างรุนแรง โดยเกิดการบีบสั้น (short squeeze) ส่งผลให้มีการล้างพอร์ตในตลาดคริปโตรวมมูลค่าราว 587 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 8.5 พันล้านบาท โดยเฉพาะการล้างโพสิชั่นฝั่งชอร์ต คิดเป็นมูลค่ามากถึง 374 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5.4 พันล้านบาท แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อสวนทางที่กำลังเกิดขึ้นในตลาด
ก่อนหน้านี้ ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันอย่างหนักหลังจากทรัมป์ประกาศขยายมาตรการภาษี โดย *บิตคอยน์(BTC)* ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 74,000 ดอลลาร์ และกลุ่ม *อัลต์คอยน์* ก็เจอแรงขายจนร่วงมากกว่า 20% อย่างไรก็ตาม การพักเบรกครั้งนี้ทำให้นักลงทุนประเมินว่า *มีพื้นที่สำหรับการเจรจาเชิงนโยบายเพิ่มเติม* ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวก
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่าแม้ทรัมป์จะเลื่อนเก็บภาษีกับหลายประเทศ แต่ในกรณีของจีนกลับเลือกเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าขึ้นสูงสุดถึง 125% ด้านจีนเองก็เตรียมตอบโต้ด้วยภาษีตอบโสมากถึง 84% โดยทรัมป์ได้โพสต์บนโซเชียลมีเดีย Truth Social ว่าจีนมีท่าที “หยาบคาย” ต่อการเจรจา พร้อมทั้งเดินหน้าท่าทีเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ เหรียญ *อัลต์คอยน์* และ *มิมคอยน์* เองก็ปรับตัวขึ้นแรง โดย *คาร์ดาโน(ADA)*, *อาวาแลนช์(AVAX)* และ *ซุย(SUI)* ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 10% ในขณะที่เหรียญชื่อดังในระบบ *โซลานา(SOL)* อย่าง *พาร์ตี้โทเคน* พุ่งขึ้น 28% ภายในวันเดียว และทำกำไรสะสมในช่วงเดือนที่ผ่านมารวมกว่า 259% *บองค์(BONK)* และ *วีฟ(WIF)* ซึ่งเป็นมิมคอยน์ชื่อดังในระบบเดียวกัน ก็เพิ่มขึ้นตามมาที่ 14% ส่งผลให้สภาพตลาดโดยรวมฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เหรียญ *ทรัมป์(TRUMP)* กลับเพิ่มขึ้นเพียง 8.1% เท่านั้น
ด้าน *ชิบะอินุ(SHIB)* และ *เปเป้(PEPE)* ซึ่งทำงานบนเครือข่าย *อีเธอเรียม(ETH)* ก็ปรับตัวขึ้นระดับสองหลัก ดันมูลค่าตลาดรวมของหมวดมิมคอยน์พุ่ง 8.5% ภายในวันเดียว เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่านักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวจากความรู้สึกและกระแสข่าว มากกว่าปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ ความคิดเห็น: ตลาดมิมคอยน์ยังคงสะท้อนแนวโน้มการเก็งกำไรที่แข็งแกร่งแม้อยู่ในสภาวะไม่แน่นอน
แต่ถึงแม้จะเกิดแรงดีดตัวอย่างรุนแรง ราคาของเหรียญหลักจำนวนมากก็ยังห่างไกลจากจุดสูงสุดทางประวัติศาสตร์ *ดอจคอยน์(DOGE)* ยังอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในปี 2021 ถึง 78% *ริปเปิล(XRP)* ตกต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2018 ถึง 40% ส่วน *โซลานา(SOL)* เองก็ยังลดลงกว่า 60% จากจุดสูงสุดในเดือนมกราคม
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าการผ่อนเก็บภาษีของทรัมป์จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูระยะยาวหรือไม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่า แม้เพียงการเปลี่ยนแปลงนโยบายเล็กน้อยก็สามารถสร้างจุดเปลี่ยนให้ตลาดทั้งหมดได้ ตลาดคริปโตได้พิสูจน์อีกครั้งว่าเป็นสินทรัพย์ที่มี ‘ความผันผวนสูง’ และตอบสนองไวต่อข่าวการเมืองเป็นพิเศษ
ความคิดเห็น 0