มาตรการเลื่อนจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นเวลา 90 วัน กระตุ้นให้ตลาดคริปโตฯ กลับเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว โดยเมื่อวันที่ 10 ตลาดคริปโตฯ ได้รับเงินทะลักกลับเข้าสู่วงการกว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 365 ล้านล้านวอนเกาหลีใต้) ดันมูลค่ารวมของตลาดเพิ่มขึ้น 6% สู่ระดับ 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,942 ล้านล้านวอน)
บิตคอยน์(BTC) พุ่งแรงกว่า 8% ภายในวันเดียว แตะระดับราคาสูงสุดระหว่างวันที่ 83,425 ดอลลาร์ (ราว 121.8 ล้านบาท) ก่อนจะมีการปรับฐานเล็กน้อยเมื่อตลาดในเอเชียเปิดทำการ ส่งผลให้บิตคอยน์กลับเข้าสู่กรอบราคาเดิมช่วงกลาง 80,000 ดอลลาร์ซึ่งรักษาไว้ได้หลายสัปดาห์
นักวิเคราะห์ในตลาดต่างคาดการณ์เชิงบวก โดย Rekt Capital ชี้ว่า บิตคอยน์กำลังเคลื่อนไหวใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบชี้วัดเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) ระยะเวลา 21 สัปดาห์ ที่ระดับ 86,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 126 ล้านบาท) ซึ่งขณะนี้ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน เขาให้ความเห็นว่า “หาก EMA มีแนวโน้มลดลง จะสร้างโอกาสให้บิตคอยน์ทะลุแนวต้านนี้ได้ง่ายขึ้น”
ขณะเดียวกัน Mister Crypto นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่ง เปรียบเทียบรูปแบบตลาดตอนนี้กับปี 2020 พร้อมระบุว่าการเบรกเอาต์ครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งในตลาดคริปโตฯ และตลาดหลักทรัพย์ โดย S&P500 ทะยานขึ้นถึง 9.5% ในหนึ่งวัน ขณะที่แนสแด็กเพิ่มขึ้น 12% และดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นเกือบ 8%
แม้ตลาดจะกลับมาฟื้นตัว แต่ก็ยังมีเสียงเตือนจากบางฝ่ายว่าอาจเป็น ‘การเด้งกลับชั่วคราว’ ท่ามกลางขาลง โดยปีเตอร์ ชิฟฟ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำออกมาเตือนว่า “การปรับตัวของตลาดหุ้นเป็นเพียงการดีดกลับในตลาดหมีเท่านั้น และภาษี 10% ที่เคยประกาศใช้อยู่แล้วยังคงมีผลอยู่” พร้อมระบุว่าในช่วง 90 วันข้างหน้า ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่
ในส่วนของเหรียญหลักอื่นๆ นอกจากบิตคอยน์แล้ว อีเธอเรียม(ETH) พุ่งขึ้น 15% ในวันเดียว สู่ระดับ 1,680 ดอลลาร์ (ราว 2.45 ล้านบาท) แม้ยังไม่หลุดพ้นจากภาวะขาลง ส่วนริปเปิล(XRP) เด้งขึ้น 13% กลับมายืนที่ 2 ดอลลาร์ (ราว 2,920 วอน) ขณะที่โซลานา(SOL) เพิ่มขึ้น 12% แตะ 120 ดอลลาร์ (ประมาณ 175,200 วอน) ด้านโดชคอยน์(DOGE) ก็กลับขึ้นมาที่ 0.16 ดอลลาร์ (ราว 233 วอน)
สกุลเงินยอดนิยมอื่นๆ อย่างคาร์ดาโน, เชนลิงก์, อวาแลนช์, เฮดีรา และซุย ต่างก็ดีดตัวขึ้นเป็นเลขสองหลัก แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังมีความเห็นว่า ‘ฤดูกาลของอัลต์คอยน์’ ยังมาไม่เต็มตัว
ปัจจัยที่สนับสนุนการฟื้นตัวในรอบนี้ ไม่เพียงแต่จากท่าทีผ่อนคลายด้านการค้าโดยประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ยังรวมถึงความคาดหวังที่สดใสต่อการเจรจากับจีนในอนาคต โดยโจ แมคแคน ผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุน Asymmetric กล่าวว่า “ตลาดได้สะท้อนผลกระทบจากภาษีศุลกากรรอบใหญ่อย่างครบถ้วนแล้ว แต่หากเกิดข้อตกลงที่แท้จริงกับจีนเมื่อใด ตลาดสินทรัพย์ทั่วโลกพร้อมจะพุ่งทะยานอีกครั้ง”
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การเจรจาสหรัฐฯ-จีนที่อยู่ในช่วง 90 วันถัดจากนี้ รวมถึงความเคลื่อนไหวเชิงนโยบายเพิ่มเติม อาจเป็นปัจจัยตัดสินการเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตฯ ในระยะต่อไป
ความคิดเห็น 0