Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อังกฤษจับตาสตาเบิลคอยน์เข้ม หวั่นกระทบเสถียรภาพระบบการเงิน

Thu, 10 Apr 2025, 19:09 pm UTC

อังกฤษจับตาสตาเบิลคอยน์เข้ม หวั่นกระทบเสถียรภาพระบบการเงิน / Tokenpost

ทางการอังกฤษได้ยกระดับการเฝ้าระวังสเตเบิลคอยน์และภาคอุตสาหกรรมคริปโตฯ หลังมีความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินและเสถียรภาพค่าเงินของประเทศ

เมื่อวันที่ 4 และ 8 เมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FPC) ภายใต้การดูแลของธนาคารกลางอังกฤษ ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับสถานะของสินทรัพย์คริปโตในระบบเศรษฐกิจ โดยสรุปว่าตลาดคริปโตที่ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันยังเชื่อมโยงกับภาคเศรษฐกิจจริงและระบบการเงินเพียงเล็กน้อย แต่ ‘สเตเบิลคอยน์’ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและเสี่ยงต่อการกระทบเสถียรภาพทางระบบการเงิน

ธนาคารกลางอังกฤษและสำนักงานกำกับบริการทางการเงินของสหราชอาณาจักร(FCA) จึงกำลังวางกรอบกำกับดูแลเพื่อเสริมความยืดหยุ่นทางการเงินของ ‘สเตเบิลคอยน์’ โดยเน้นเรื่องความสามารถในการสภาพคล่อง ความเสี่ยงด้านเครดิต และความผันผวนของตลาด คณะกรรมการยังเน้นว่า “การจะรักษาอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1:1 แม้ในสถานการณ์รุนแรง จำเป็นต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกันที่มั่นคง”

นอกจากนี้ FPC ยังแสดงความกังวลต่อการแพร่กระจายของสเตเบิลคอยน์ที่อิงค่าเงินปอนด์ซึ่งออกโดยต่างประเทศโดยไม่มีสินทรัพย์รองรับ หากมีการใช้งานเพิ่มขึ้น แม้จะมีกฎเกณฑ์กำกับ ก็อาจทำให้เกิด ‘การแทนที่สกุลเงิน’ (currency substitution) ในเศรษฐกิจบางประเทศได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม SME และธุรกิจค้าขายข้ามพรมแดนที่เริ่มหันมาใช้คริปโตฯ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเดิมๆ

ตัวอย่างที่ชัดเจนเกิดขึ้นแล้วใน ‘แอฟริกา’ ที่สภาพคล่องในระบบธนาคารและค่าเงินท้องถิ่นยังไม่มั่นคง สเตเบิลคอยน์ที่อิงเงินดอลลาร์ถูกนำมาใช้เป็นทางเลือกมากขึ้น รายงานล่าสุดจาก Chainalysis ระบุว่า ในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา การใช้สเตเบิลคอยน์คิดเป็นเกือบครึ่งของปริมาณธุรกรรมคริปโตทั้งหมด

เบน คาเซลิน(Ben Caselin) หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต VALR ในแอฟริกาใต้ ให้ความเห็นว่า “แอฟริกาใต้มีระบบนิติรัฐที่แข็งแรง ทำให้กลายเป็นประตูสู่การขยายตลาดในแอฟริกา” และกล่าวถึง ‘ศักยภาพในการกลายเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล’ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของหน่วยงานทางการอังกฤษ ที่เห็นว่า สเตเบิลคอยน์กำลังเปลี่ยนจากเครื่องมือเสริมคริปโต ไปสู่การเป็นเครื่องมือชำระเงินที่แท้จริง

ความกังวลเรื่องผลกระทบต่อความมั่นคงด้านค่าเงิน ยังเกิดขึ้นในยุโรปด้วย โดยหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป เช่น สำนักงานกำกับหลักทรัพย์ยุโรป(ESMA) ได้เตือนว่า การที่คริปโตเริ่มมีการเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม อาจทำให้ระบบการเงินทั้งหมดได้รับผลกระทบหากตลาดคริปโตทรุดตัวลง ในขณะที่ นาตาชา คาเซนาฟ(Natasha Cazenave) ผู้อำนวยการบริหารของ ESMA แสดงความคิดเห็นว่า “การร่วงลงของราคาคริปโตตัวหลักในอนาคต อาจส่งผลกระทบแบบลูกโซ่ทั่วทั้งระบบการเงิน”

สหภาพยุโรปจึงเตรียมเดินหน้าออกกฎควบคุมเพื่อรับมือ ความเคลื่อนไหวเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยสำนักงานกำกับดูแลด้านการประกันภัยและเงินบำนาญของยุโรป(EIOPA) ได้เสนอให้บังคับบริษัทประกันภัยต้องกันเงินทุนสำรองเทียบเท่ากับมูลค่าคริปโตที่ถือครองแบบ 100%

ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของหน่วยงานการเงินสำคัญทั่วโลกที่เร่งกำกับดูแล ‘สเตเบิลคอยน์’ อย่างเข้มงวด การยอมรับและใช้งานคริปโตในฐานะเครื่องมือชำระเงินในการค้าระหว่างประเทศ อาจกลายเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญของนโยบายการเงินในเวทีเศรษฐกิจโลกต่อไป

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1