Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญชี้บิตคอยน์(BTC) อาจแตะ 1.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2035 แม้เผชิญแรงกดดันตลาด

Sat, 12 Apr 2025, 17:56 pm UTC

ผู้เชี่ยวชาญชี้บิตคอยน์(BTC) อาจแตะ 1.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2035 แม้เผชิญแรงกดดันตลาด / Tokenpost

บิตคอยน์(BTC) มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่แตะระดับ 1.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 263 ล้านบาท) ภายในปี 2035 แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากการปรับฐานราคาในปัจจุบันและภาวะจิตวิทยาการลงทุนที่อ่อนแอลงก็ตาม โดย โจ เบอร์เนต(Joe Burnett) หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดของอันเชน(Unchained) กล่าวระหว่างการสัมภาษณ์รายการ 'Chain Reaction' ของ Cointelegraph เมื่อวันที่ 11

เบอร์เนตอธิบายว่า บิตคอยน์กำลังเข้าสู่ ‘ยุคทอง’ ของวัฏจักรขาขึ้นระยะยาวในรอบ 10 ปีข้างหน้า และมีโอกาสที่สกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งจะมีมูลค่าตลาดไล่ตามหรือแซงหน้าทองคำซึ่งอยู่ที่ระดับ 21 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 3,066 ล้านล้านบาท โดยอ้างอิงโมเดลคาดการณ์ 2 รูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ ‘โมเดลคู่ขนาน’ ที่ประเมินราคาบิตคอยน์ในปี 2035 ไว้ที่ 1.8 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ‘โมเดลบิตคอยน์ 24’ ของไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) จากไมโครสเตรเทจี คาดว่าราคาอาจแตะระดับ 2.1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 307 ล้านบาท)

กระแสการคาดการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนปกคลุมตลาดโลก หลังจาก ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศเมื่อวันที่ 20 มกราคม ว่าจะพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าในวงกว้าง ส่งผลให้นักลงทุนหันมาพิจารณาทางเลือกการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงทองคำและทองคำในรูปแบบโทเคน

เบอร์เนตย้ำจุดเด่นของบิตคอยน์ว่าเป็นสินทรัพย์ที่หายากและมีคุณสมบัติทางเทคนิคที่เหนือกว่า เมื่อเทียบกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม และเขาเชื่อว่าหากบิตคอยน์สามารถไล่ตามมูลค่าตลาดของทองคำได้ ราคาของ 1 BTC อาจทะลุ 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 146 ล้านบาท) ได้ ‘แม้แต่วันนี้’

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางนโยบายการค้าที่แข็งกร้าวของทรัมป์ ทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงถดถอยลง และตลาดกลับมาสนใจทองคำและโทเคนทองมากขึ้น โดย Cointelegraph ระบุว่า ปริมาณการซื้อขายโทเคนทองต่อสัปดาห์พุ่งทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (กว่า 1.46 หมื่นล้านบาท) เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่วิกฤตธนาคารสหรัฐฯ ในปี 2023

เบอร์เนตยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในสถานการณ์ตลาดที่ผันผวนเช่นนี้ นักลงทุนรายใหญ่ที่มีความมั่นคงทางจิตวิทยาในการลงทุน หรือ ‘มือแข็ง’ จะได้รับโอกาสมากขึ้น โดยช่วงการปรับฐานราคาที่บิตคอยน์อาจร่วงลงถึง 80% กลับกลายเป็นโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าซื้อในราคาถูก ในขณะที่ช่วงขาขึ้นจะดึงดูดความสนใจในวงกว้าง และช่วงขาลงคือเวลาสำหรับการถ่ายโอนสินทรัพย์ไปยังนักลงทุนที่มั่นใจจริง

ด้าน อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งบิทเม็กซ์(BitMEX) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของมาเอลสตรอม(Maelstrom) มองในเชิงบวกเช่นกัน โดยระบุว่าหากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) บิตคอยน์อาจพุ่งถึง 2.5 แสนดอลลาร์ (ราว 36.5 ล้านบาท) ภายในสิ้นปี 2025

อย่างไรก็ตาม ความระมัดระวังยังคงมีอยู่ในกลุ่มนักลงทุน โดย เอ็มมานูเอล คาร์โดโซ นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มโทเคนทรัพย์สินดิจิทัล บริคเคน(Brickken) ให้ ‘ความคิดเห็น’ ว่าในช่วงที่เงินทุนไหลออกจาก ETF บิตคอยน์ นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่มั่นคงมากขึ้น เช่น ดอลลาร์สหรัฐและทองคำ ตามภาวะที่ ‘เงินดอลลาร์แข็งค่า’ และตลาดเริ่มเน้นสินทรัพย์ปลอดภัย

ข้อมูลล่าสุดยังสะท้อนความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยราคาทองคำปีนี้ปรับขึ้นกว่า 23% ขณะที่บิตคอยน์ปรับตัวลดลงมากกว่า 10% การเปรียบเทียบผลตอบแทนที่สวนทางกันนี้บ่งชี้ว่า ความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัยสูงขึ้นท่ามกลางภาวะตลาดที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1