นโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมเหมืองบิตคอยน์(BTC) โดยหลังการประกาศใช้นโยบายดังกล่าว ตลาดคริปโตโดยรวมได้เข้าสู่ภาวะขาลง และราคาการขุด (Hashprice) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความสามารถในการทำกำไรของกิจกรรมเหมืองก็ตกลงมาต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ต่อ PH/s
ตามรายงานจากบริษัทที่ปรึกษา บล็อกส์บริดจ์ เมื่อวันที่ 10 ระบุว่า ปัจจุบันราคาการขุดอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่สร้างความท้าทายแม้กระทั่งสำหรับบริษัทเหมืองรายใหญ่
แม้ว่าทรัมป์เพิ่งประกาศระงับใช้นโยบายภาษีศุลกากรเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้ตลาดปรับตัวขึ้นบางส่วน แต่ราคาการขุดก็ยังคงอยู่ใกล้ระดับ 42 ดอลลาร์ต่อ PH/s ซึ่งยังถือว่าอยู่ในเขตอันตราย โดยจากการวิเคราะห์ผลประกอบการของแพลตฟอร์ม TheMinerMag ระบุว่า ระดับ 40 ดอลลาร์ต่อ PH/s นั้นเป็นจุดคุ้มทุนสำหรับผู้ประกอบการเหมืองที่จดทะเบียนจำนวนมาก หากราคาต่ำกว่าจุดนี้ บริษัทจะเผชิญกับผลขาดทุนโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อนำค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและดอกเบี้ยเข้ามารวม
กรณีที่น่าเป็นห่วงคือบริษัทที่ยังใช้งานเครื่องขุดรุ่น S19 Pro ซึ่งยังคิดเป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งของเครือข่าย โดยเครื่องเหล่านี้ได้รับผลกระทบหนักจากเหตุการณ์ Halving เมื่อเมษายนปีที่แล้ว ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรลดลงอย่างต่อเนื่อง หากราคาการขุดไม่ฟื้นตัวภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อาจมีการหยุดดำเนินการหรือโยกย้ายอุปกรณ์เพิ่มขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง ครอบครัวทรัมป์ก็เริ่มขยับเข้าสู่อุตสาหกรรมเหมืองคริปโต โดยบริษัทโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ‘Hut 8’ ได้จับมือกับลูกชายของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้แก่ อีริก ทรัมป์ และโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ จัดตั้งธุรกิจเหมืองขนาดใหญ่ในชื่อ ‘American Bitcoin Corp’
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมหลายรายแสดง *ความคิดเห็น* ว่า หากราคาการขุดยังคงอยู่ในระดับปัจจุบัน หลายบริษัทอาจจำเป็นต้องทบทวนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ หรือเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างเพื่อความอยู่รอดในระยะยาว
ความคิดเห็น 0