บิตไวส์ บริษัทจัดการสินทรัพย์จากสหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานตลาดคริปโตประจำไตรมาสแรกของปี 2025 โดยแม้ตลาดโดยรวมจะเผชิญภาวะร่วงลงอย่างรุนแรง แต่บางภาคส่วนยังสามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้
ตามรายงานดังกล่าว มูลค่าตลาดของ *สเตเบิลคอยน์* เพิ่มขึ้นถึง 13.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ประมาณ 218,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 31 ล้านล้านวอน รายงานยังชี้ว่าในปี 2024 ยอดการชำระเงินทั้งหมดของ *USDT* และ *USDC* รวมกันมีปริมาณมากกว่าเครือข่าย *วีซ่า(Visa)* เป็นครั้งแรก
สภาคองเกรสสหรัฐฯ คาดว่าจะผ่านร่างกฎหมายสเตเบิลคอยน์ภายในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้สถานะทางกฎหมายของสเตเบิลคอยน์ชัดเจนยิ่งขึ้น และเปิดทางให้ธนาคารและแพลตฟอร์มการชำระเงินขนาดใหญ่จำนวนมากสามารถเริ่มนำเทคโนโลยีนี้มาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น
*บิตไวส์* เชื่อว่า การเติบโตของสเตเบิลคอยน์จะส่งผลดีไปยังภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น *ระบบการเงินแบบไร้ตัวกลาง(DeFi)* อีกด้วย ขณะเดียวกันการซื้อขายฟิวเจอร์สของ *บิตคอยน์(BTC)* ที่คึกคักมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ผ่านมายังสะท้อนถึงความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่มีต่อคริปโตเคอร์เรนซี
ในรายงานยังระบุว่า แม้ *อีเธอเรียม(ETH)* จะปรับตัวลงถึง 45% ในช่วงไตรมาสแรก แต่ก็ยังถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่รองรับการเติบโตของสเตเบิลคอยน์ โดยในเดือนมีนาคม ปริมาณการหมุนเวียนของสเตเบิลคอยน์บนเครือข่ายอีเธอเรียมทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 125,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 18 ล้านล้านวอน
แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันจาก *โซลานา(SOL)* และ *ทรอน* แต่อีเธอเรียมก็ยังคงยืนหนึ่งในฐานะเครือข่ายหลักสำหรับการออกและทำธุรกรรมของสเตเบิลคอยน์ บิตไวส์เผยเพิ่มเติมว่า จำนวนเฉลี่ยของนักพัฒนาในอีเธอเรียมยังคงสูงที่สุดในอุตสาหกรรม พร้อมกับแนวโน้มการเติบโตของปริมาณธุรกรรมใน *เลเยอร์สอง* ของอีเธอเรียม เช่น *Base*, *Arbitrum* และ *Optimism* ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
*ความคิดเห็น*: รายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่าท่ามกลางความผันผวนของตลาดคริปโต สเตเบิลคอยน์ได้กลายมาเป็นเสาหลักตัวใหม่ที่ไม่เพียงแต่แสดงถึงศักยภาพด้านการใช้งานจริง แต่ยังกลายเป็นแรงดึงดูดใหม่ทั้งต่อสถาบันการเงินและผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนในวงกว้าง
ความคิดเห็น 0