การเติบโตของ *สเตเบิลคอยน์*ได้รับความสนใจมากขึ้นท่ามกลางข้อจำกัดของระบบการเงินแบบดั้งเดิมของสหรัฐ โดย *เจอรัลด์ เดวิด(Jerald David)* ประธานของอาร์กาลาบส์(Arca Labs) ระบุว่า “เวลาทำการของธนาคารสหรัฐที่จำกัด และการขาดคู่สกุลเงินที่ใช้เงินอื่นนอกเหนือจากดอลลาร์ เป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดความต้องการใน*สเตเบิลคอยน์*”
ในงานสัมมนา TokenizeThis 2025 เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เขาได้กล่าวระหว่างการเสวนาว่า “เมื่อเราย้อนกลับมาดูว่าเหตุใดเราจึงต้องการ*สเตเบิลคอยน์* คำตอบก็คือระบบธนาคารที่เปิดเพียงตั้งแต่ 9.00 ถึง 17.00 น. ไม่สามารถตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน” พร้อมเสริมว่า “เร็ว ๆ นี้เราจะได้เห็น*โทเคนรูปลักษณ์ใหม่* ที่รวมฟังก์ชันการชำระเงินและการรับดอกเบี้ยเข้าด้วยกัน”
การเสวนาครั้งนี้ยังเน้นถึงการขยายตัวของ *เหรียญดิจิทัลที่ให้ผลตอบแทน (yieldcoin)* ซึ่งสามารถสร้างรายได้ผ่านการถือครอง, สเตคกิ้ง หรือปล่อยกู้ โดยเดวิดชี้ว่า “แม้อุตสาหกรรมคริปโตจะขับเคลื่อนตลอด 24 ชั่วโมง แต่โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดั้งเดิมของสหรัฐกลับไม่สามารถรองรับได้” นี่จึงเป็นช่องว่างที่*สเตเบิลคอยน์*เข้ามาเติมเต็ม
ด้านข้อถกเถียงเรื่องการระบุตัวตน(KYC)ในการใช้งาน*สเตเบิลคอยน์* บริษัทรายหนึ่งในงานคือฟิกเกอร์มาร์เก็ต(Figure Markets) แสดงจุดยืนว่า “ผู้ใช้ที่ถือ*สเตเบิลคอยน์*ประเภทที่ให้ผลตอบแทนต้องผ่านขั้นตอน KYC ด้วยเหตุผลด้านภาษี” ซึ่งมุมมองนี้ได้รับการโต้แย้งจากเดวิดเช่นกัน โดยเขาแสดงความเห็นว่า “การใช้*สเตเบิลคอยน์*ควรถูกนำไปใช้ในหลายรูปแบบไม่ใช่แค่เพื่อผลกำไร การบังคับใช้กฎ AML และ KYC กับกิจกรรมเล็กน้อยอย่างการซื้อกาแฟดูจะเป็นการควบคุมที่เกินความจำเป็น”
นิค คาร์มี(Nick Carmi) หัวหน้าฝ่ายการแลกเปลี่ยนของฟิกเกอร์มาร์เก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางออกหนึ่งที่เป็นไปได้คือการพัฒนา *ระบบ KYC แบบใช้ความเชื่อถือร่วม* ซึ่งจะเปิดให้ผู้ใช้สามารถโอนย้ายข้อมูลระบุตัวตนระหว่างแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น โดยปัจจุบันผู้ใช้มักต้องทำขั้นตอน KYC ซ้ำหลายครั้งเมื่อต้องใช้บริการหลากหลายเจ้า ซึ่ง *ความคิดเห็น* นี้สะท้อนความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งานคริปโต
บทสนทนาเรื่องอนาคตของ*สเตเบิลคอยน์* โดยเฉพาะในแง่ของบทบาทและกฎระเบียบ ถือเป็นสัญญาณว่าอุตสาหกรรมกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ *ความคิดเห็น* ในงานนี้ตอกย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและภาคเทคโนโลยีจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางการเติบโตของตลาดคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0