แม้ดัชนีแนสแด็กจะลดลงถึง *-6.96%* ในรอบหนึ่งเดือนสิ้นสุดวันที่ 18 เมษายน แต่ *บิตคอยน์(BTC)* กลับสวนกระแสด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราว 1% โดยแสดงให้เห็นถึง ‘การแยกตัวออกจากตลาดหุ้น’ อย่างชัดเจน
บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ *109,000 ดอลลาร์* เมื่อวันที่ 20 มกราคม ก่อนจะร่วงลงมาแตะระดับ *75,000 ดอลลาร์* เป็นครั้งแรก จากนั้นจึงฟื้นตัวกลับขึ้นไปแตะระดับ *85,000 ดอลลาร์* ภายในเวลาเพียง 4 วัน ซึ่งถือเป็นแรงส่งที่น่าจับตา
ระหว่างวันที่ 4 ถึง 12 เมษายน บิตคอยน์ได้สร้างรูปแบบ ‘ถ้วยและหูถ้วย’ (Cup and Handle Pattern) ซึ่งเป็นลักษณะทางเทคนิคที่มักพบในช่วงก่อนเกิดแนวโน้มขาขึ้น จากนั้นในช่วงวันที่ 12 ถึง 18 เมษายน ได้ต่อยอดลักษณะของ ‘หูถ้วย’ อย่างต่อเนื่อง ในแง่ของมูลค่าการซื้อขาย วันที่ 7 เมษายน บันทึกไว้ที่จุดสูงสุดราว *98,000 ล้านดอลลาร์* ก่อนจะลดลงต่ำกว่า *21,000 ล้านดอลลาร์* ในวันที่ 18 เมษายน ซึ่งเป็นสัญญาณคล้ายกับช่วงก่อนเริ่มตลาดกระทิง
‘มิคาเอล ฟาน เดอ โพป(Michaël van de Poppe)’ ผู้ก่อตั้งบริษัท MN แคปิตอล กล่าวว่า “แนวโน้มภาพรวมของมูลค่าตลาดยังคงเป็นขาขึ้น และสินทรัพย์คริปโตยังสามารถยืนเหนือเส้นแนวรับสำคัญได้” โดยจากกราฟที่เขาเปิดเผย บ่งชี้ว่าบิตคอยน์มีการรวมตัวของจุดรับระยะยาวจากไตรมาส 3 ปี 2023 และการปรับฐานจากระดับ 109,000 ดอลลาร์ จนเกิดเป็นแนวรับใหม่
นักวิเคราะห์ประเมินว่า หากบิตคอยน์สามารถเคลื่อนไหวเหนือเส้นแนวรับได้อย่างต่อเนื่อง และกลับมาเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นช่วงกรกฎาคมถึงมกราคม ก็อาจสามารถแตะระดับ *150,000 ดอลลาร์* ภายในเดือนตุลาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลายฝ่าย
*สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด* ธนาคารรายใหญ่ของอังกฤษ คาดการณ์ว่า บิตคอยน์สามารถแตะ *200,000 ดอลลาร์* ได้ภายในปี 2025 และอาจขยับไปถึง *500,000 ดอลลาร์* ภายในปี 2029 ด้าน *ม็อตลีย์ฟูล* เว็บไซต์ข้อมูลหุ้นชื่อดัง ระบุว่าการแตะ 200,000 ดอลลาร์ในปี 2025 เป็นสิ่งที่ “มีความเป็นไปได้มาก” ขณะที่ *แลร์รี ฟิงก์(Larry Fink)* จากแบล็คร็อก มองว่าหากเกิดเหตุการณ์พิเศษในแวดวงเฮดจ์ฟันด์ บิตคอยน์อาจพุ่งแตะถึง *700,000 ดอลลาร์* ได้อย่างสุดขั้วตาม ‘ความคิดเห็น’ ของเขา
ความคิดเห็น 0