เอริก บัลชูนาส(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์ ETF จาก Bloomberg กล่าวว่าการอนุญาตให้มีการสเตกอีเธอเรียม(ETH)บางส่วนใน ETF แบบสปอตอาจไม่ช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้มากนัก ตราบใดที่ราคาอีเธอเรียมยังไม่สามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บัลชูนาสให้ความเห็นระหว่างการปรากฏตัวในรายการ *New Era Finance Podcast* เมื่อวันที่ 29 ว่า “การเปิดให้มีสเตกอาจเป็นปัจจัยบวก แต่ผลกระทบต่อการไหลเข้าของเงินทุนจะเล็กน้อยมาก มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงตลาดในระดับโครงสร้าง”
นับตั้งแต่การเปิดตัว ETF แบบสปอตของอีเธอเรียมเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วในสหรัฐ ผลตอบรับยังไม่เข้าเป้าที่คาดหวัง แตกต่างจาก ETF บิตคอยน์(BTC) ที่สามารถสร้างความร้อนแรงในตลาดภายในเวลาเพียงสองเดือน พร้อมผลักดันให้ราคาขึ้นไปถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ราคาของอีเธอเรียมกลับปรับลดลงหลังการเปิดตัว ETF
บัลชูนาสชี้ว่าราคาที่ไม่คึกคักของอีเธอเรียมเป็นปัจจัยสำคัญ เขาระบุว่า “ปัญหาหลักของอีเธอเรียมคือการขาดประสิทธิภาพในแง่ของราคา มันไม่สามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้ต่อเนื่อง” ทั้งนี้ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการเกิดแรงซื้ออย่างรุนแรง ราคาของอีเธอเรียมพุ่งขึ้นไปถึง 4,107 ดอลลาร์ (ราว 599,000 บาท) เมื่อวันที่ 16 ของเดือนเดียวกัน และในช่วงเวลาเพียง 19 วันนับตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน มีเงินทุนไหลเข้าสู่ ETF แบบสปอตของอีเธอเรียมมากถึง 2,440 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 35,600 ล้านบาท)
เหตุการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับช่วงที่เกิดกระแสการเก็งกำไรหลังประธานาธิบดีทรัมป์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งกระตุ้นความสนใจในตลาดคริปโตเป็นอย่างมาก
ข้อมูลนี้สะท้อนว่าหากไม่มี ‘แรงผลักดัน’ ที่แข็งแกร่งเป็นระยะเวลานาน หรือไม่มีการสร้าง ‘เนื้อเรื่อง’ ที่น่าสนใจตามมา โอกาสในการเติบโตของ ETF อีเธอเรียมแบบสปอตจะยังคงจำกัด แม้ว่าจะมีฟีเจอร์สเตกิ่งเข้ามาเสริมก็ตาม ความคิดเห็นจากบัลชูนาสชี้ให้เห็นว่า *ฟีเจอร์เสริมนั้นยังไม่เพียงพอหากขาดการสนับสนุนจากโมเมนตัมราคาที่นักลงทุนเชื่อมั่น*
ความคิดเห็น 0