ความเป็นไปได้ที่กองทุน ETF สำหรับริปเปิล(XRP) จะได้รับการอนุมัติเพิ่มขึ้นถึง *85%* ส่งผลให้ได้รับความสนใจอย่างมากจากเทรดเดอร์ทั่วโลก โดยข้อมูลนี้ได้รับการเปิดเผยโดย *เอริก บัลชูนาส* นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ซึ่งระบุว่าแนวโน้มการอนุมัติ ETF ดังกล่าวในสหรัฐฯ มีความเป็นไปได้สูงขึ้นจาก *การเปลี่ยนแปลงผู้นำ* ภายในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC)
หากกองทุน ETF ของ XRP ได้รับการอนุมัติจริง จะเปิดทางให้ *นักลงทุนสถาบันสามารถเข้าถึงเหรียญริปเปิลผ่านตลาดการเงินแบบดั้งเดิม* อันอาจนำไปสู่การไหลเข้าของเงินทุนจำนวนมหาศาลตามมา
*บิตคอยน์ ETF* ที่ถูกเปิดตัวเมื่อช่วงต้นปี 2024 นั้น มียอดเงินไหลเข้าสุทธิถึง *39,000 ล้านดอลลาร์* จึงมีการคาดการณ์ว่า หาก XRP ETF ดึงดูดเงินลงทุนเพียง *15-30%* เท่านั้น ราคาของ XRP ก็อาจพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
จากการคำนวณ หากมีเงินไหลเข้าเพียง 15% หรือ 5.85 พันล้านดอลลาร์ ราคาของ XRP อาจขยับจากปัจจุบันที่ 2.22 ดอลลาร์ ไปสู่ *12.23 ดอลลาร์* แต่หากมีเงินไหลเข้าถึง 30% หรือ 1.17 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็อาจผลักดันให้ราคาพุ่งไปถึง *22.20 ดอลลาร์* ได้
ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มพยากรณ์ *Polymarket* ความเป็นไปได้ที่ XRP ETF จะได้รับการอนุมัติได้เพิ่มขึ้นจาก *68% เป็น 80%* ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่เช่น *Bitwise, WisdomTree และ Franklin Templeton* ได้ยื่นคำขอเปิดกองทุนไปเรียบร้อยแล้ว
แม้ว่า SEC จะขยายเวลาการพิจารณาคำขอของ Franklin Templeton ไปถึงวันที่ *17 มิถุนายน* แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยังคงเชื่อว่าความเป็นไปได้ในการอนุมัตินั้น *เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ* หากได้รับไฟเขียว ราคาของ XRP อาจพุ่งสูงแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นกับบิตคอยน์
บรรยากาศในตลาดเริ่มมีความหวังมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์มองว่า XRP มีโอกาสกลับไปยืนเหนือจุดสูงสุดล่าสุดในเดือนเมษายนที่ *2.36 ดอลลาร์* ได้ในระยะสั้น และมีโอกาสทำสถิติใหม่ในปี 2025
เทรดเดอร์ชื่อดัง *Dark Defender* มองว่าการปรับฐานที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการพักตัวในแนวโน้มขาขึ้น เช่นเดียวกับ *AllinCrypto* ที่ประเมินว่าในระยะยาว XRP มีโอกาสแตะระดับราคา *19.27 ดอลลาร์*
อย่างไรก็ตาม รายงานเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ ทำให้ราคาของ XRP ปรับตัวลงถึง *5%* ในช่วงล่าสุด แต่จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค พบว่า XRP ยังคงอยู่ใน *รูปแบบขาขึ้น* หากสามารถผ่านระดับแนวต้านที่ *2.40 ดอลลาร์* ไปได้ ก็อาจขยับขึ้นไปถึง *3.74 ดอลลาร์*
ทั้งนี้ ราคาจำเป็นต้องรักษาระดับแนวรับที่ *2.20 ดอลลาร์* ไว้ให้ได้ และฝ่าแนวต้านที่บริเวณ *2.80–3.00 ดอลลาร์* เพื่อเปิดทางสู่ *วัฎจักรการขึ้นรอบใหม่* อย่างเต็มตัว
ความคิดเห็น 0