สำนักงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหราชอาณาจักร(FCA) ได้ก้าวอีกขั้นในการกำหนดแนวทาง *ควบคุมอุตสาหกรรมคริปโต* โดยประกาศเริ่มต้นกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่า *กรอบกำกับดูแลอย่างชัดเจน* กำลังจะถูกบังคับใช้ในอนาคตอันใกล้
ตามรายงานเมื่อวันที่ 24 สำนัก FCA เปิดเผยเอกสารหารือเกี่ยวกับกรอบกำกับสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมเปิดรับข้อเสนอแนะจากทั้งภาคอุตสาหกรรมและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการกำหนดกรอบควบคุมในสหราชอาณาจักร ที่จะครอบคลุมประเด็นสำคัญอย่าง *กระดานเทรดคริปโต*, *ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล*, *บริการสเตกกิ้งและปล่อยกู้*, *แพลตฟอร์มดีไฟน์(DeFi)* รวมถึง *การซื้อคริปโตด้วยเงินเชื่อ*
จุดที่ FCA ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือความเสี่ยงจาก 'การซื้อคริปโตเคอร์เรนซีด้วยบัตรเครดิตหรือการกู้เงิน' ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนแบกรับความเสียหายมหาศาลหากตลาดปรับตัวลงอย่างรุนแรง จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มมาตรการควบคุมเฉพาะในส่วนนี้
เด이비드 길 ผู้บริหารฝ่ายจ่ายเงินและการเงินดิจิทัลของ FCA ระบุว่า จำเป็นต้องมี “แนวทางที่สมดุลระหว่างการสนับสนุนนวัตกรรม กับการปกป้องผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นในตลาด” ความเห็นนี้สะท้อนแนวทางของสหราชอาณาจักรที่ดูจะไม่ต่อต้านเทคโนโลยีบล็อกเชนหรือคริปโตในเชิงโครงสร้าง *แต่พยายามจัดวางกฎเกณฑ์ให้สามารถอยู่ร่วมกับระบบการเงินดั้งเดิมได้อย่างปลอดภัย*
ทั้งนี้ การเปิดรับฟังความคิดเห็นถือเป็นส่วนหนึ่งของ 'แผนยุทธศาสตร์คริปโต' ของ FCA ซึ่งวางกรอบเวลานำเสนอกฎเกณฑ์ด้าน *การป้องกันการปั่นตลาด*, *การออกสเตเบิลคอยน์*, *การดูแลสินทรัพย์ลูกค้า*, และ *การบริหารความเสี่ยง* โดยอยู่ระหว่างการเตรียมออกกฎหมายจากกระทรวงการคลังแห่งสหราชอาณาจักรเพื่อมอบอำนาจกำกับดูแลด้านนี้แก่ FCA อย่างเป็นทางการ
FCA จะเปิดรับข้อเสนอแนะถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2025 และมีแผนเผยแพร่ข้อเสนอฉบับสมบูรณ์ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีขององค์กร ที่มุ่งเน้นการพัฒนากฎระเบียบอันชาญฉลาด, การเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจ และการคุ้มครองผู้บริโภคในระบบการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
*ความคิดเห็น*: ความเคลื่อนไหวของ FCA ถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าคริปโตไม่ได้อยู่นอกระบบอีกต่อไป โลกกำลังปรับตัวเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มตัว ผู้ให้บริการและนักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกับกรอบกำกับที่เข้มข้นและเป็นทางการมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ความคิดเห็น 0