ไอดิน คิลิก ซีอีโอของไฮฟ์ บล็อกเชน เปิดเผยแผนขยายธุรกิจในต่างประเทศและยุทธศาสตร์การขุดบิตคอยน์(BTC) ในงานปารีส บล็อกเชน วีค ปี 2025 โดยให้ความสำคัญกับตลาดสหรัฐฯ ด้วยการย้ายสำนักงานใหญ่จากแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ไปยังเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส เพื่อเพิ่มการมองเห็นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดแนสแด็กตั้งแต่ปี 2021
คิลิกกล่าวถึงราคา *บิตคอยน์* ที่พุ่งแตะระดับ 108,000 ดอลลาร์ว่าเป็นผลจากการที่ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยมองว่าการที่ทรัมป์เข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับบิตคอยน์เป็นครั้งแรกนั้นมีความหมายอย่างมากต่อวงการคริปโต
เขายังแสดง *ความคิดเห็น* เกี่ยวกับวิวัฒนาการของเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยระบุว่าในอดีตเคยยึดโยงกับทองคำ ก่อนจะกลายเป็น ‘ปิโตรดอลลาร์’ และในอนาคตจะเข้าสู่ยุค ‘อิเล็กโทรดอลลาร์’ ซึ่งอิงจากพลังงาน
หนึ่งในความสำเร็จครั้งใหญ่ของไฮฟ์คือการขยายธุรกิจไปยังประเทศปารากวัย โดยคิลิกเปิดเผยว่า บริษัทได้ติดตั้งศูนย์ข้อมูลขนาด 300 เมกะวัตต์ และเริ่มดำเนินการตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ปัจจุบันมีเครื่องขุดจำนวน 1,000 เครื่องให้กำลังประมวลผลที่ 100 เพต้าแฮช และมีแผนติดตั้งเครื่องขุดเพิ่มเติมอีกหลายพันเครื่องต่อสัปดาห์
ไฮฟ์ตั้งเป้าขยายกำลังการขุดให้ถึง 25 เอกซาแฮชภายในเดือนตุลาคม ซึ่งจะคิดเป็นประมาณ 3% ของเครือข่ายบิตคอยน์ทั่วโลก สาเหตุที่เลือกปารากวัยเป็นฐานปฏิบัติการเพราะสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนอิตาอิปู ที่มีกำลังการผลิตถึง 10.4 กิกะวัตต์
ในด้านเทคโนโลยี ไฮฟ์ยังได้ร่วมมือกับอินเทลผลิตเครื่องขุดบิตคอยน์รุ่น ‘BuzzMiner’ จำนวน 10,000 เครื่อง เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น บิตเมน, ไมโครบีที, และแคนาน โดยขณะนี้ BuzzMiner กำลังถูกใช้งานที่ปารากวัยเป็นหลัก
สำหรับแนวโน้มในอนาคต คิลิกคาดว่า ‘ค่าแฮช’ หรือราคาต่อหน่วยของพลังประมวลผล จะปรับเพิ่มจาก 40 ดอลลาร์ ไปอยู่ในช่วง 80–120 ดอลลาร์ โดยอ้างอิงจากสถิติในอดีตที่ช่วงหลังเหตุการณ์ ‘การลดรางวัลครึ่งหนึ่ง’ (Halving) ราคาจะพุ่งขึ้น 2–3 เท่า
ทั้งนี้คิลิกเปิดเผยว่าจะเดินทางไปยังประเทศปารากวัยด้วยตนเองในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อเร่งเดินหน้าการขยายโครงการให้มากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0