ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังก้าวข้ามจาก ‘ระดับทดลอง’ สู่การเป็นส่วนหนึ่งของ *การเงินกระแสหลัก* ที่มีโครงสร้างที่ชัดเจน การตรวจสอบบัญชีอย่างเป็นระบบ และรูปแบบรายได้ที่ขยายตัวได้จริง จากที่ธุรกิจแลกเปลี่ยนคริปโตเคยเริ่มต้นจากโครงการเล็ก ๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ บัดนี้ได้พัฒนาเป็นองค์กรที่มีทีมกำกับดูแลด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดและฝ่ายสื่อสารนักลงทุนครบถ้วน พร้อมเป้าหมายทางการเงินระยะกลางถึงระยะยาวที่ชัดเจน ล่าสุด เทรซี จิน(Tracy Jin) ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ MEXC ประกาศอย่างมั่นใจว่า “เราพร้อมแล้วสำหรับการเปิดขายหุ้น IPO”
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน บริษัท เซอร์เคิล(Circle) ผู้ออกเหรียญเสถียรสหรัฐ(USDC) ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการระดมทุนกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15,290 พันล้านวอน) ผ่าน IPO พร้อมทั้งเปิดตัวในตลาดหุ้นอย่างยิ่งใหญ่ ราคาหุ้นในวันแรกพุ่งทะยานถึง 167% ทำลายสถิติเดิมอย่างขาดลอย
กระแสการเข้าตลาดทุนยังคงต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน บริษัท เจมิไน(Gemini) ที่ก่อตั้งโดยสองพี่น้อง คาเมรอน และ ไทเลอร์ วิงเคิลวอส ได้ยื่นเอกสารลับเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐเช่นกัน จากนั้นวันที่ 10 มิถุนายน แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกอย่าง บูลลิช(Bullish) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาเศรษฐีชื่อดัง ปีเตอร์ ธีล(Peter Thiel) ก็ได้เดินหน้าในทิศทางเดียวกัน
ความเคลื่อนไหวของ เซอร์เคิล, เจมิไน และ บูลลิช สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมคริปโต ที่กำลังก้าวสู่การเป็น *กลไกหลักของตลาดทุนโลก* ความคืบหน้าเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงการเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลัก แต่ยังสอดคล้องกับท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ยืนข้างสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงการเลือกตั้ง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวงกว้าง
ความคิดเห็น 0