เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) บิตคอยน์(BTC) แสดงแนวโน้มแข็งแกร่งโดยพุ่งขึ้นแตะระดับ *110,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.52 ล้านบาท* อย่างไรก็ตาม มี ‘สัญญาณเตือน’ ที่ระดับราคาสูงนี้ซึ่งอาจบ่งชี้ถึง *ความเป็นไปได้ของแรงขายในระยะสั้น* ตามการวิเคราะห์ทางเทคนิค
นักวิเคราะห์ได้ตรวจพบ ‘ภาวะไดเวอร์เจนซ์แบบขาลง’ บนกราฟหลายช่วงเวลา ทั้ง 15 นาที, 1 ชั่วโมง และ 4 ชั่วโมง โดยแม้ราคาของบิตคอยน์จะยังคงไต่ขึ้น แต่มาตรวัด ‘ดัชนีความแข็งแกร่งเชิงสัมพันธ์ (RSI)’ กลับลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมเริ่มอ่อนแรงลง *สัญญาณดังกล่าวมักสะท้อนว่าความเชื่อมั่นในการซื้อเริ่มลดน้อยลง* และนักลงทุนบางส่วนจึงเริ่มระมัดระวังมากขึ้น
แม้บางฝ่ายยังคงมีมุมมองเชิงบวก โดยคาดว่าบิตคอยน์อาจสามารถทะลุแนวต้านที่ *112,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.56 ล้านบาท* ได้ แต่อีกหลายเสียงจากผู้เชี่ยวชาญกลับ *เตือนว่าเป็นจุดที่ต้องระวัง* เมื่อพิจารณาจากแรงขายที่เริ่มเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเกิดขึ้นซ้ำของปรากฏการณ์ ‘สวีป’ หรือการล้างคำสั่งซื้อ-ขาย ในบริเวณราคาที่นักลงทุนหนาแน่น *สิ่งนี้อาจบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของ "เฟคเอาท์" หรือการเบรกทะลุที่ไม่ยั่งยืน*
ในภาพรวม แม้แนวโน้มระยะกลางของบิตคอยน์จะยังไม่ชัดเจน แต่ *สัญญาณทางเทคนิคในปัจจุบันแนะนำให้นักลงทุนเน้น ‘การรอดู’ มากกว่าการเข้าซื้อในระยะสั้น* ตลาดยังคงจับตามองต่อเนื่องถึง *ความยั่งยืนของแนวโน้มขาขึ้น* และการผันผวนที่อาจเกิดจากช่องว่างระหว่างราคาและปัจจัยทางเทคนิคที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ความระมัดระวังจึงกลายเป็นกลยุทธ์ที่หลายคนให้ความสำคัญในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0