Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สถาบันการเงินแห่ถือครองอีเธอเรียม(ETH) ดันมูลค่าพุ่ง-ท้าชิงบัลลังก์บิตคอยน์(BTC)

สถาบันการเงินแห่ถือครองอีเธอเรียม(ETH) ดันมูลค่าพุ่ง-ท้าชิงบัลลังก์บิตคอยน์(BTC) / Tokenpost

กระแสการลงทุนจากสถาบันในตลาดคริปโตเริ่มเปลี่ยนทิศทาง โดยหันมาให้ความสำคัญกับอีเธอเรียม(ETH) แทนบิตคอยน์(BTC) ซึ่งแรงดึงดูดของ ETH มาจากความสามารถในการใช้งานจริงในโลกเศรษฐกิจ, การไหลเข้าอย่างต่อเนื่องของกองทุน ETF และบทบาทที่เติบโตในระบบการเงินแบบโทเค็น ล่าสุดกระแสการซื้อ ETH ของภาคธุรกิจยิ่งเสริมให้แนวโน้มการย้ายขั้วครั้งนี้ชัดเจนขึ้น

หนึ่งในกรณีที่น่าสนใจมากที่สุด คือการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของบริษัท บิท ดิจิทัล(Bit Digital) ที่หลังจากสามารถระดมทุนได้ถึง 1.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.39 แสนล้านบาท) บริษัทได้แปลงสินทรัพย์ทั้งหมดเป็น ETH และปัจจุบันถือครอง ETH อยู่ที่ 100,603 เหรียญ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในจำนวนที่มากที่สุดในหมู่บริษัทจดทะเบียน ซีอีโอของบริษัทให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “อีเธอเรียมคือสินทรัพย์กลยุทธ์แห่งอนาคต” โดยชี้ว่า *ระบบนักพัฒนา การโทเค็น และการเติบโตของดีมานด์ในสเตเบิลคอยน์* คือปัจจัยหนุนมูลค่าในระยะยาว

ในอีกฟากของโลก การประชุม EthCC ที่เมืองคาน ประเทศฝรั่งเศส ก็กลายเป็นจุดรวมความสนใจของวงการ แม้เมืองนี้จะเป็นที่รู้จักจากเทศกาลหนังระดับโลก แต่ปีนี้กลับเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นศูนย์กลางบล็อกเชน โดย โรบินฮู้ด(Robinhood) ได้เปิดให้บริการซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ ที่ถูกโทเค็นผ่านเครือข่ายอาร์บิทรัม(Arbitrum) สำหรับผู้ใช้งานในยุโรป ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายระบบนิเวศของ ETH และหลังประกาศข่าว ราคาหุ้นของโรบินฮู้ดก็ทะลุระดับ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 แสนบาท)

ระบบการเงินดั้งเดิมก็เริ่มปรับตัวเช่นกัน โดย ดอยช์แบงก์ ได้สร้างแพลตฟอร์มโทเค็นบน ZkSync ซึ่งเป็นเลเยอร์ 2 ของอีเธอเรียม เพื่อรองรับการโทเค็นทรัพย์สิน, กองทุน และสเตเบิลคอยน์ ขณะเดียวกัน คอยน์เบส(Coinbase) และ คราเคน(Kraken) ก็กำลังพัฒนาบริการซื้อขายหุ้นโทเค็น และกองทุน BUIDL ของ แบล็คร็อก ก็ให้ผลตอบแทนแบบเรียลไทม์บนเครือข่ายของ ETH

ข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่า ปัจจุบันประมาณ *65% ของการใช้งานเหรียญ USDคอยน์(USDC)* เกิดขึ้นบนอีเธอเรียม และยังครอง *สัดส่วนครึ่งหนึ่งของตลาดสเตเบิลคอยน์ทั้งหมด* ความน่าเชื่อถือระดับนี้ช่วยให้ ETH แยกตัวจากคู่แข่งสายความเร็วได้อย่างชัดเจน โดย วีทาลิก บูเตอริน(Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม ระบุว่า "สถาบันให้ความสำคัญกับ *ความเชื่อถือ ความเป็นส่วนตัว และเสถียรภาพระยะยาว* มากกว่าความเร็ว"

ความเคลื่อนไหวจากภาคธุรกิจยังชัดเจนขึ้น บริษัทรายใหม่อย่าง ชาร์พลิงก์(SharpLink) ได้ซื้อ ETH จำนวน 188,478 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 4.9 พันล้านบาท ขณะที่บิท ดิจิทัลเองมีการเข้าซื้อเพิ่มเติมอีก 10 หมื่น ETH หรือราว 2.6 พันล้านบาท และ บิทมายน์(BitMine) ก็เตรียมเข้าซื้อ ETH เพิ่มอีกมูลค่าประมาณ 2.5 พันล้านบาท ส่งผลให้สามบริษัทนี้รวมกันถือครอง ETH ถึง 388,000 เหรียญ ซึ่งสูงกว่าปริมาณ ETH ที่ออกใหม่ในแต่ละเดือนซึ่งอยู่ที่ 70,000 เหรียญอย่างมาก

ดัชนีชี้วัดจาก ETF ก็สนับสนุนแนวโน้มนี้เช่นกัน Coinglass รายงานว่า *ETH ETF มีเงินไหลเข้าสองเดือนติดต่อกัน* ปัจจุบัน ETH ETF มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 11,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15.29 ล้านล้านบาท) แม้จะยังห่างจากบิตคอยน์ ETF ที่มีมูลค่ากว่า 138,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 191.2 ล้านล้านบาท) แต่ก็มีแนวโน้ม *ไล่ตามช่องว่าง* อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจาก Glassnode ยังเผยว่ามี ETH มากกว่า 61,000 เหรียญ ไหลเข้าสู่ ETF แบบสปอตในช่วง 8 สัปดาห์ล่าสุด

ในแง่ราคา ETH ก็แสดงสัญญาณฟื้นตัว โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา *ราคาพุ่งขึ้น 3%* ขณะที่หุ้นเกี่ยวข้องกับ ETH ก็ปรับตัวแรงเช่นกัน เช่น หุ้น BitMine Immersion ทะยานกว่า 1,200% หลังประกาศแปลงเป็น ETH ส่วนหุ้น Bit Digital ก็พุ่งขึ้นเกิน 34% ภายในหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่ SharpLink ก็ซื้อเพิ่มอีก 2,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.78 หมื่นล้านบาท) จนราคาหุ้นกระโดดขึ้นถึง 28% ภายในวันเดียว

คาร์ล มูน(Carl Moon) นักวิเคราะห์ตลาดมองว่า หาก ETH สามารถทะลุแนวต้านที่ 2,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.75 แสนบาท) ได้ จะเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ ‘ภาวะขาขึ้นถาวร’ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ETH เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,553 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.55 แสนบาท) โดยในกรอบ 24 ชั่วโมงมีการปรับฐานเล็กน้อย

ภาพรวมทั้งหมดชี้ว่า การขยับตัวของสถาบันเข้าสู่อีเธอเรียมไม่ใช่แค่เทรนด์ระยะสั้น แต่เป็นผลของ *ความน่าเชื่อถือ, ความยืดหยุ่นทางระบบ และบทบาทในโลกการเงินจริง* ที่กำลังเติบโต โดยอีเธอเรียมกำลังได้รับการยอมรับในฐานะ ‘สินทรัพย์เชื่อมโลกจริง’ ที่มีน้ำหนักพอจะท้าทายสถานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ ของบิตคอยน์ในระยะยาว ความคิดเห็น: อีเธอเรียมอาจอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากสกุลเงินดิจิทัลทั่วไป สู่เครื่องมือทางการเงินระดับโลกที่มีมูลค่าจริงในเศรษฐกิจ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1