บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางที่แข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยมีกระแสเงินไหลเข้าสู่กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณการถือครองของเหรียญบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนลดลงอย่างเห็นได้ชัด สถานการณ์นี้สะท้อนถึง *ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ฟื้นตัว* และ *แนวโน้มการถือครองในระยะยาวที่เข้มแข็งขึ้น*
อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผ่านมายังเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิด เมื่อมี *บิตคอยน์จำนวนถึง 20,000 BTC* (มูลค่าราว 2,918 พันล้านวอน) ถูกโอนออกจากกระเป๋าเงินที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 2011 แม้ว่าเหรียญเหล่านี้จะไม่ถูกส่งไปยังแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน แต่ถูกโอนไปยังที่อยู่ใหม่ซึ่งยังไม่ปรากฏตัวตน เหตุการณ์นี้เรียกความสนใจกลับมายัง *กลุ่มวาฬที่ถือครองเหรียญมาเป็นเวลานาน* และโครงสร้างผู้ถือครองบิตคอยน์โดยรวม
แล้วใครคือผู้ถือครองบิตคอยน์รายใหญ่ในปี 2025? รายงาน ‘รายชื่อเศรษฐีบิตคอยน์ 2025’ เผยว่า กลุ่มผู้ที่มี BTC ในครอบครองมากที่สุดยังคงเป็น *แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน, กองทุน ETF, บริษัทใหญ่ และมหาเศรษฐีคริปโต* ซึ่งครอบครองเหรียญส่วนใหญ่อย่างชัดเจน
ในกลุ่มแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน *ไบแนนซ์(Binance)* และ *โรบินฮูด(Robinhood)* โดดเด่นที่สุด โดยทั้งสองบริหารกระเป๋าเงินที่ถือ BTC ในระดับมหาศาล ไม่ได้มีไว้เพียงสำหรับการรับฝากเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อ *สภาพคล่องของตลาดโดยรวม*
ในกลุ่มบริษัท *ไมโครสเตรทิจี(MicroStrategy)* ยังคงรักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งในฐานะบริษัทที่ถือครอง BTC มากที่สุด โดยมีจำนวนรวมเกือบ *600,000 BTC* ซึ่งกลายเป็นตัวอย่างคลาสสิกของกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว และ *ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันอย่างกว้างขวาง*
ในระดับประเทศ *รัฐบาลสหรัฐฯ* มีปริมาณ BTC สูงที่สุด โดยถือครอง *207,189 BTC* (ราว 3.02 ล้านล้านวอน) ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากการยึดเหรียญในกระบวนการสืบสวนของหน่วยงานยุติธรรม นี่เป็นสัดส่วนการถือครองที่ใหญ่ที่สุดในหมู่ประเทศต่างๆ และอาจเป็น *กลไกที่ส่งอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดโดยอ้อม*
นอกจากนี้ กระเป๋าเงินขนาดกลางจำนวนมากขึ้นเริ่มปรากฏให้เห็น บ่งชี้ว่า *ผู้ลงทุนรายย่อยและองค์กรขนาดเล็ก* กำลังตั้งใจสะสม BTC อย่างต่อเนื่อง สถานการณ์นี้มองได้ว่าเป็นสัญญาณของ *การยอมรับในระดับมหาชนที่เพิ่มขึ้น*
แม้ในปี 2025 โครงสร้างการถือครองของบิตคอยน์จะยังมีความ ‘กระจุกตัวสูง’ แต่ก็เริ่มเห็นแนวโน้มของ *การกระจายความหลากหลายของผู้ถือครอง* มากขึ้น กระแสความต้องการผ่านกองทุน ETF และวัฒนธรรมการถือครองในระยะยาวคาดว่าจะ *ยังคงดำเนินต่อไปในระยะสั้นถึงกลาง* ซึ่งจะช่วยส่งเสริม *เสถียรภาพของตลาดและมูลค่าแห่งความหายาก* ของบิตคอยน์ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0