บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุจุดสูงสุดใหม่ที่ 117,000 ดอลลาร์ หรือราว 16.2 ล้านบาท ยังคงแสดงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสขาขึ้นนี้ เจมส์ วิน(James Wynn) นักลงทุนรายใหญ่หรือที่เรียกว่า ‘วาฬคริปโต’ กลับไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูก *ล้างพอร์ตครั้งใหญ่อีกครั้ง* ได้ โดยตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ออนเชน Lookonchain ระบุว่า พอร์ตการลงทุนระยะสั้นของเขาถูกล้างหมดในเวลาเพียง 12 ชั่วโมงหลังเปิดคำสั่งเทรด
วินเปิดสถานะ ‘ชอร์ต’ หรือการขายล่วงหน้าบิตคอยน์ผ่านแพลตฟอร์ม Hyperliquid ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เขาเองมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีการฝากเงินเพื่อเปิดสถานะประมาณ 28,000 ดอลลาร์ (ราว 3.9 ล้านบาท) พร้อมโบนัสแนะนำเพื่อนอีก 3,950 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง คำสั่งของเขาจึงขาดทุนรวมกว่า 27,922 ดอลลาร์ และถูกปิดโดยอัตโนมัติทั้งหมด
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่วินเผชิญการขาดทุนขนาดใหญ่ ก่อนหน้านี้เขาเคยเสียเงินหลายล้านดอลลาร์จากกระเป๋าคริปโตของตัวเองในสถานการณ์ที่คล้ายกัน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดข้อสงสัยในชุมชนว่าอาจเป็นการ *แสร้งขาดทุน* เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น การดึงดูดความสนใจหรือการจัดการข้อมูลเพื่อสร้างพฤติกรรมตลาด จุดนี้เองที่ อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) อดีตซีอีโอของบิทแม็กซ์(BitMEX) เคยตั้งข้อสังเกตไว้
ในช่วงเวลา 36-48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์เริ่มต้นจากระดับ 108,000 ดอลลาร์ (ราว 15 ล้านบาท) และไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ ขาขึ้นอย่างรุนแรงนี้ไม่ได้ส่งผลเฉพาะต่อวินเท่านั้น แต่ยังทำให้นักลงทุนรายใหญ่อีกรายต้องเผชิญแรงกดดันหนัก โดยรายงานระบุว่า วาฬอีกรายเปิดสถานะ ‘ชอร์ต’ มูลค่า 1135 BTC หรือราว 132.6 ล้านดอลลาร์ (กว่า 1.8 พันล้านบาท) และขาดทุนไปแล้ว *มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 139 ล้านบาท)* ในความพยายามหลีกเลี่ยงการถูกล้างพอร์ต เขาจำเป็นต้องเพิ่มหลักประกันอีก 5.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 76 ล้านบาท) ด้วยการฝาก USD คอยน์เข้าไปเพิ่ม
กรณีนี้ถือเป็น *บทเรียนสำคัญว่าแม้แต่นักลงทุนระดับ ‘ซูเปอร์วาฬ’ ก็ไม่อาจต้านทานแรงเปลี่ยนทิศฉับพลันของตลาดได้* อีกทั้งยังสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนรายย่อยที่จับตาความเคลื่อนไหวของพอร์ตกลุ่มคนกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด ด้วยความโปร่งใสที่มากขึ้นของข้อมูลบนบล็อกเชน ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของแต่ละพอร์ตกลายเป็น *ดัชนีวัดอารมณ์ของตลาดคริปโตในภาพรวม* อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0