เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ตามรายงานของ Washington Times แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง คอยน์เบส(Coinbase) ได้ยื่นฟ้องต่อรัฐบาลรัฐออริกอน เพื่อเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายคริปโตแบบกระทันหันของรัฐ โดยยืนยันว่าการเปลี่ยนท่าทีโดยไม่แจ้งล่วงหน้าและไม่มีการทำประชาพิจารณ์ละเมิดหลัก ‘ความโปร่งใส’ ที่ควรมีในการกำกับดูแล
คอยน์เบสระบุว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ทีนา โคเทค(Tina Kotek) ผู้ว่าการรัฐออริกอน และแดน เรย์ฟิลด์(Dan Rayfield) อัยการสูงสุด โดยกล่าวหาว่าทั้งสองได้แก้ไขท่าทีด้านกฎระเบียบโดยไม่มีขั้นตอนตามปกติ เช่น การจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ซึ่งทำให้ ‘หลักความแน่นอนทางกฎหมาย’ ถูกสั่นคลอนอย่างหนัก
พอล เกรวัล(Paul Grewal) หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของคอยน์เบสออกความเห็นว่า “สำนวนการดำเนินคดีของออริกอนมีลักษณะคล้ายกับท่าทีเชิงการเมืองของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) และขัดขวางการพัฒนาอย่างถูกต้องของอุตสาหกรรมคริปโต”
จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งนี้ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเมื่ออัยการประจำรัฐออริกอนยื่นฟ้องคอยน์เบส โดยกล่าวหาว่าบริษัทจำหน่าย ‘สินทรัพย์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและมีความเสี่ยง’ โดยไม่ได้ลงทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐและรัฐบาลกลาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ หน่วยงานรัฐเคยมีท่าทีว่า คริปโตส่วนใหญ่รวมถึงบิตคอยน์(BTC) ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายของรัฐดังกล่าว
คอยน์เบสเปิดเผยว่า การเปลี่ยนท่าทีนี้เกิดขึ้นกะทันหัน พร้อมกับการจ้างสำนักงานกฎหมายภายนอกมาทำคดี ซึ่งหากชนะคดีจะได้รับส่วนแบ่งสูงถึง 30% ของมูลค่าความเสียหาย ส่งผลให้เกิดคำถามถึงแรงจูงใจทางการเมืองเบื้องหลัง
ไรอัน แวนแกรค(Ryan VanGrack) หัวหน้าฝ่ายคดีของคอยน์เบสแสดงความเห็นว่า “การเปลี่ยนนโยบายของรัฐนี้มีแรงจูงใจทางการเมืองแฝงอยู่ และนอกจากจะจำกัดโอกาสของประชาชนในรัฐในการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลแล้ว ยังเอื้อผลประโยชน์ให้กับสำนักงานกฎหมายภายนอก”
เขาเสริมว่า การกำกับดูแลคริปโตควรถูกกำหนดในระดับรัฐบาลกลาง ไม่ใช่ให้แต่ละรัฐจัดการเองแบบออริกอน เพราะเสี่ยงต่อการเกิดความไม่แน่นอนและซับซ้อนเกินความจำเป็น
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางการที่รัฐสภาสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ ได้แก่ ‘กฎหมายความชัดเจน’ (Clarity Act) และ ‘กฎหมายเจเนียส’ (GENIUS Act) ที่มีเป้าหมายเพื่อวางกรอบกำกับดูแลอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลให้ชัดเจนและเป็นระบบ โดยทั้งสองพรรคกำลังเจรจาและเตรียมลงคะแนนเสียงในช่วงสุดสัปดาห์นี้
คอยน์เบสหวังว่าการยื่นฟ้องครั้งนี้จะทำให้ศาล ‘บังคับให้ออริกอนเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการตัดสินใจ’ เพราะเชื่อว่า ‘กฎระเบียบต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส’ และการเปลี่ยนนโยบายโดยไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะบั่นทอนความไว้วางใจและส่งผลลบต่ออุตสาหกรรม
ขณะนี้ออริกอนยังคงเป็นรัฐเดียวที่ยื่นฟ้องคอยน์เบส และเป็นรัฐแรกที่หยิบยกประเด็นที่รัฐบาลกลางเคยยกเลิกไปแล้ว กลับขึ้นมาเป็นประเด็นความขัดแย้งอีกครั้ง ท่ามกลางการเติบโตของตลาดคริปโตในสหรัฐฯ เหตุการณ์นี้อาจจะยิ่งตอกย้ำ ‘ความตึงเครียดระหว่างมิติทางการเมืองกับเสถียรภาพของตลาด’ อย่างชัดเจนมากขึ้นในระดับประเทศ
ความคิดเห็น 0