อีเธอเรียม(ETH) ได้พุ่งทะลุแนวต้านสำคัญที่ 2,850 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.96 ล้านบาท) พร้อมกับราคาที่พุ่งขึ้นกว่า 15% สร้างแรงกระเพื่อมต่อเนื่องในตลาดอัลท์คอยน์อย่างชัดเจน ความเคลื่อนไหวนี้ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนอย่าง ไรอัน ฌอน อดัมส์(Ryan Sean Adams) ที่มองว่าอีเธอเรียมกำลังเปลี่ยนจากโครงสร้างพื้นฐานสำหรับแอปพลิเคชัน ไปสู่การเป็น ‘*สินทรัพย์เตรียมพร้อมระดับโลก*’ หรือ *Blue Money*
ไรอัน ฌอน อดัมส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุนด้านบล็อกเชน Mythos Capital โพสต์ความคิดเห็นผ่านโซเชียลแพลตฟอร์ม X โดยระบุว่า “ชุมชนอีเธอเรียมได้ทำให้วิสัยทัศน์ของ *Blue Money* กลายเป็นจริงในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา” พร้อมชี้ว่า *ETH ควรถูกมองในฐานะสินทรัพย์เก็บมูลค่า* เช่นเดียวกับทองคำ น้ำมัน และบิตคอยน์(BTC)
เขายังชูจุดเด่นของอีเธอเรียมในแง่ของ ‘*ผลตอบแทนแบบออนเชน*’ และเศรษฐกิจจริงที่ยึดโยงกับเครือข่าย โดยเน้นย้ำว่า ETH ไม่ใช่แค่สินทรัพย์เพื่อการลงทุน แต่คือ *สินทรัพย์ดิจิทัล* ที่ผสาน ‘*ความสามารถในการผลิต*’ กับ ‘*ระดับความปลอดภัยสูง*’
การพุ่งขึ้นของอีเธอเรียมในครั้งนี้ยังส่งสัญญาณการฟื้นตัวทางเทคนิคอย่างชัดเจน หลังทะลุกลับขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 สัปดาห์และ 200 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 3.68 ล้านบาทและ 3.38 ล้านบาทตามลำดับ ณ ขณะนี้ ETH ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2,955 ดอลลาร์ (ราว 4.10 ล้านบาท) นักวิเคราะห์หลายรายมองแนวต้านถัดไปที่ช่วง 3,300–3,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.59–5.00 ล้านบาท) หากโมเมนตัมเชิงบวกยังคงมี อีเธอเรียมอาจสามารถทดสอบระดับ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.56 ล้านบาท) ได้ในไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม แม้ ETH จะฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ 4,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.81 ล้านบาท) อยู่ราว 60% เมื่อเทียบกับบิตคอยน์ที่สร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ETH ยังตามหลังอยู่พอสมควร ทำให้นักลงทุนบางรายมองว่านี่เป็น *“โอกาสในการเก็บของถูก”* และเริ่มซื้อสะสมเพิ่ม
อดัมส์ยังกล่าวอีกว่า “ขณะนี้มีแนวโน้มที่นักลงทุนจะมอง ETH เป็นรากฐานของระบบการเงินโลก ไม่ใช่แค่โปรเจกต์เดียวในวงการคริปโต” และหากแนวโน้มการเปลี่ยนบทบาทนี้ชัดเจนขึ้นจริง อีเธอเรียมก็อาจมีโอกาสไล่ตามมูลค่าของบิตคอยน์ได้
ภาวะบวกของ ETH ยังส่งผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งตลาด โดยหลายเหรียญอัลท์คอยน์เริ่มปรับตัวขึ้นแรงเช่นกัน สร้างความหวังต่อการเข้าสู่ *“ฤดูกาลอัลท์คอยน์ใหม่”* นักลงทุนบางรายเชื่อว่า ETH คือผู้นำกระแสนั้น และกำลังกำหนดทิศทางของตลาดในภาพรวม
แต่อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า หาก ETH กลับมาต่ำกว่า 2,850 ดอลลาร์อีกครั้ง แนวโน้มที่แข็งแกร่งในปัจจุบันอาจกลายเป็นเพียงการดีดกลับระยะสั้น ความสามารถในการรักษาระดับราคานี้ไว้ได้จะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางในระยะถัดไป
ท่ามกลางการประเมินมูลค่าใหม่ของ ETH ที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น ความคิดที่ว่าอีเธอเรียมจะกลายเป็น *“แกนกลางของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน”* นั้น เริ่มดูจริงจังมากขึ้นกว่าที่เคย และการเดินหน้าสู่การเป็น *‘สินทรัพย์เตรียมพร้อมระดับโลก’* อย่างแท้จริงก็อาจอยู่ไม่ไกลจากความเป็นจริงเท่าไรนัก
ความคิดเห็น 0