เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา Pi เน็ตเวิร์ก(Pi Network) ได้ประกาศอัปเดตครั้งใหญ่ในโอกาสวัน “Pi2Day” โดยเผยข้อมูลด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มและยูทิลิตี้ใหม่ๆ ที่กำลังผลักดันการเติบโตของระบบนิเวศคริปโตของตน ซึ่งหนึ่งในประเด็นสำคัญคือการพัฒนาของ *Pi App Studio* ที่กำลังกลายเป็นหัวใจของแนวคิด ‘สร้างแอปได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด’
*Pi App Studio* เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างแอปพลิเคชันด้วยเทคโนโลยี ‘ปัญญาประดิษฐ์’ โดยไม่ต้องมีพื้นฐานการเขียนโค้ด ซึ่งช่วยลดกำแพงระหว่างผู้ใช้งานกับเทคโนโลยีในระบบนิเวศของ Pi ได้อย่างชัดเจน ทีมงานคอร์(Pi Core Team) ระบุว่า วิสัยทัศน์ของแพลตฟอร์มนี้ คือการเปลี่ยนจากการเขียนโค้ด มาเป็นการสื่อสารผ่าน “ภาษามนุษย์” โดยในอนาคตมีแผนจะเชื่อมโยงการใช้งานกับอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น มือถือและเดสก์ท็อป
ขณะเดียวกัน เวอร์ชันใหม่ของ *Pi Node* ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน โดยเวอร์ชัน 0.5.2 ได้เปลี่ยนชื่อจาก ‘Pi Node’ มาเป็น ‘Pi Desktop’ เพื่อให้สะท้อนการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น ส่วนเวอร์ชันล่าสุด 0.5.3 ได้มีการแก้ไขบั๊ก พร้อมเพิ่มฟังก์ชันที่สำคัญอย่างแอปขุดเหมือง, Pi App Studio และยูทิลิตี้สำคัญอื่นๆ อีกหลายรายการ ทีมงานคอร์ยังเน้นย้ำว่า *การรันโนดเป็นปัจจัยสำคัญต่อความมั่นคงของเครือข่าย* โดยผู้ที่ดำเนินโนดจะได้รับรางวัลการขุดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อด้าน *ความปลอดภัย*, *การกระจายอำนาจ*, และ *ความยั่งยืน* ของระบบ
อย่างไรก็ตาม ด้านราคาของโทเคนยังคงซบเซา Pi โทเคน แม้ว่าตลาดคริปโตโดยรวมจะฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา แต่กลับปรับตัวลดลงมากกว่า *4%* เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า ขัดแย้งอย่างชัดเจนกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อย่าง *อีเธอเรียม(ETH)*, *ริปเปิล(XRP)* และ *สเตลลาร์(XLM)* ที่ต่างทำผลงานได้น่าประทับใจโดยมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ความอ่อนตัวของราคาดังกล่าวอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น *ปัญหาสภาพคล่อง*, *ข้อกังขาเรื่องการกระจายอำนาจ*, *ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลง*, และ *ภัยคุกคามจากการปลดล็อกโทเคนครั้งใหญ่* โดยราคาของ Pi โทเคนได้ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 0.52 ดอลลาร์ (ประมาณ 724 บาท) ก่อนจะร่วงลงต่ำกว่า 0.47 ดอลลาร์ (ประมาณ 654 บาท) ภายในเวลาสั้น ๆ ทำให้ไม่สามารถรักษาราคาเฉลี่ยในระดับรายสัปดาห์ไว้ได้
แม้การอัปเดตครั้งนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ Pi เน็ตเวิร์กในการขยายระบบนิเวศและเพิ่ม *การใช้งานจริง* แต่หลายฝ่ายเตือนว่า *หากไม่สามารถพัฒนา “พื้นฐานทางเศรษฐกิจ” และ “ความสามารถในการแข่งขันของโทเคน”* ให้ดีขึ้น การฟื้นตัวในระยะยาวอาจเผชิญข้อจำกัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความสำเร็จในอนาคตของ Pi จึงขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี, การมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน และการฟื้นคืนความเชื่อมั่นจากกลุ่มนักลงทุนเป็นหลัก
ความคิดเห็น 0