บิตคอยน์(BTC) เดินหน้าทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วง 5 วันที่ผ่านมา โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาทะลุระดับ *122,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16.9 ล้านบาท)* ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 29% ซึ่งสูงกว่าทองคำที่เพิ่มขึ้น 27% เล็กน้อย
กระแสขาขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการรีบาวด์ระยะสั้น แต่ถูกมองว่าเป็นแนวโน้มเชิงโครงสร้าง โดยจากการวิเคราะห์เชิงเทคนิค บ่งชี้ว่าการปรับตัวขึ้นของราคากำลังเคลื่อนตัวในแนว ‘ช่องขาขึ้น (ascending parallel channel)’ ซึ่งแนวต้านถัดไปคาดว่าจะอยู่ที่ *125,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17.3 ล้านบาท)*
จากกระแสดังกล่าว บิตคอยน์กำลังได้รับการพูดถึงในฐานะ ‘สินทรัพย์ปลอดภัยทางเลือกใหม่’ ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าทองคำในปี 2025 โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกยังคงเผชิญความไม่แน่นอน ทั้งจากท่าทีตรึงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และนโยบายเศรษฐกิจโปรเสี่ยงจากประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์อย่างมีนัยสำคัญ
*คำสำคัญ* ที่ขับเคลื่อนตลาดในช่วงนี้คือการ ‘ไหลเข้าของเม็ดเงินจากสถาบัน’ และการเพิ่มสภาพคล่องจากกองทุน ETF อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่ายังคงเป็นแรงหนุนหลักในระยะกลาง ถึงแม้อาจมีแรงขายจากนักลงทุนที่ต้องการล็อกกำไรระยะสั้น
*ความคิดเห็น*: ผู้เชี่ยวชาญจากวงการระบุว่า “แม้จะมีแรงขายสั้น ๆ บ้าง แต่แนวโน้มภาพรวมยังคงเป็นบวก” และในขณะที่นักลงทุนจับตาว่าบิตคอยน์จะสามารถขยับขึ้นไปไกลแค่ไหน ก็ยังมีคำเตือนให้เตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการปรับฐานตามวัฏจักรตลาด
ความคิดเห็น 0