บิตคอยน์(BTC) ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในรอบสัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้นถึง *8.74%* ซึ่งถือเป็นอัตราการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาปิดรายสัปดาห์แตะที่ประมาณ *16.583 ล้านบาท (119,310 ดอลลาร์)* ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ในช่วงเช้าของวันที่ 17 ราคายังพุ่งขึ้นต่อจนแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ *17.118 ล้านบาท (123,100 ดอลลาร์)* ปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ที่ราว *16.680 ล้านบาท* ซึ่งจากข้อมูลทั้งในเชิง ‘ออนเชน’ และกระแสเงินลงทุนชี้ว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่แนวโน้มขาขึ้นจะดำเนินต่อไป
จุดที่น่าสนใจคือ สัญญาณ *FOMO (การแห่ซื้อด้วยความกลัวตกขบวน)* จากนักลงทุนรายย่อยยังไม่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าตลาดยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะซื้อเกินตัว ขณะที่หนึ่งในตัวชี้วัดหลักด้านจิตวิทยาตลาดอย่าง *อัตราพรีเมียมของมูลค่าสุทธิต่อราคาซื้อเฉลี่ยของผู้ถือสินทรัพย์ระยะสั้น (NAV)* เพิ่มขึ้นมาแตะระดับ *16%* หมายความว่านักลงทุนกลุ่มนี้ถือครองบิตคอยน์ในราคาที่สูงกว่าราคาเข้าซื้อเฉลี่ยถึง 16% ตัวเลขนี้สะท้อนความคาดหวังในตลาดอย่างเหมาะสม
นักวิเคราะห์ยังชี้ว่า เมื่ออัตราพรีเมียม NAV อยู่ในช่วง *0–25%* มักแปลว่าตลาดยังอยู่ใน *‘โซนเหมาะแก่การเข้าซื้อ’ (เขตสีเขียว)* แต่เมื่อเกินระดับ *30–35%* ตลาดมักใกล้ถึงจุดสูงสุดระยะสั้น ซึ่งระดับปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในโซนที่ *มั่นคงและปลอดภัย*
อีกปัจจัยสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นคือความเคลื่อนไหวในตลาด *ETF บิตคอยน์แบบสปอต* ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกลับมาของแรงซื้อจากสถาบันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าสู่ ETF เหล่านี้รวมถึง *1.64 หมื่นล้านบาท (1.18 พันล้านดอลลาร์)* ในวันเดียว ถือเป็นมูลค่ากระแสเงินไหลเข้ามากสุดเป็นอันดับ 2 ตั้งแต่มีการเปิดซื้อขาย ETF กลุ่มนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า ขณะนี้ตลาดกำลังอยู่ในภาวะ *แรงซื้อล้วนอย่างเข้มข้น (strong net inflows)*
ข้อมูลล่าสุดจากตัวชี้วัดออนเชน ปัจจัยพื้นฐาน และภาวะความเชื่อมั่นของนักลงทุน สะท้อนว่า บิตคอยน์กำลังเคลื่อนไหวในสภาวะ *ขาขึ้นที่แข็งแรงทางเทคนิค* โดยไม่มีสัญญาณของภาวะร้อนแรงชั่วคราว ราคามีความผันผวนอยู่บ้าง แต่ยังคงมี *โอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่เพิ่มเติม* ได้แม้ไม่มีแรงไล่ซื้อจากนักลงทุนรายย่อยในวงกว้าง
ความคิดเห็น 0