ในช่วงสองวันที่ราคาของบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 116,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16.12 ล้านบาท) นักลงทุนสถาบันกลับเดินหน้าซื้อเพิ่มอย่างแข็งขัน แม้แนวโน้มการปรับตัวขึ้นของราคาเริ่มชะลอตัว แต่การที่นักลงทุนรายใหญ่ยังคงสะสมสินทรัพย์นี้ต่อไป ถูกตีความว่าเป็น ‘สัญญาณเชิงบวก’ ต่อผลิตภัณฑ์ ETF ที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์
จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ออนเชนอย่าง Glassnode ระบุว่า แม้ราคาบิตคอยน์จะอ่อนตัวลงในช่วงหลัง แต่ ‘การไหลเข้าของเงินทุนใน ETF บิตคอยน์แบบสปอตของสหรัฐ’ ยังคงแข็งแกร่ง โดยในวันจันทร์ที่ผ่านมา มีบิตคอยน์ไหลเข้าสู่ ETF มากถึง 7,500 BTC ซึ่งนับว่าเป็นระดับสูงสุดในรอบสามเดือน
ยิ่งไปกว่านั้น ปฏิกิริยาในวันอังคารก็น่าจับตามองไม่แพ้กัน แม้ราคาบิตคอยน์จะดิ่งลงถึง 7,000 ดอลลาร์ (ราว 973,000 บาท) ภายในวันเดียว แต่กลุ่มสถาบันกลับ ‘เพิ่มการสะสมด้วยการซื้อเพิ่มอีก 3,400 BTC’ โดย Glassnode ให้ ‘ความคิดเห็น’ ว่า “สถาบันไม่มีอาการสั่นไหวใด ๆ เลย และเสริมสร้างการเดิมพันของพวกเขาอย่างเต็มที่” พร้อมย้ำว่า แทบไม่มีการไหลออกของเงินทุนจาก ETF แต่อย่างใด
ภาพรวมดังกล่าวถือเป็นปรากฏการณ์ที่สวนทางกับช่วงที่ราคาบิตคอยน์ร่วงลงเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งขณะนั้น ETF เผชิญการไหลออกของเงินทุนอย่างต่อเนื่อง แตกต่างจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ตลาดกลับ ‘มองการปรับฐานเป็นโอกาสซื้อ’ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของจิตวิทยาตลาดโดยภาพรวม
นักวิเคราะห์ในวงการมองว่า ด้วยกระแสเงินที่ไหลเข้าสู่ ETF จากฝั่งสถาบันในระดับสูงเช่นนี้ มีความเป็นไปได้ที่ราคาบิตคอยน์จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 135,000 ดอลลาร์ (ราว 18.76 ล้านบาท) ภายในระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้า โดยคาดว่า ETF จะยังคงทำหน้าที่เป็นแรงผลักดันสำคัญต่อแนวโน้มขาขึ้น และแรงซื้อนี้จะทำหน้าที่เป็น ‘แนวรับทางจิตวิทยา’ สำหรับราคาบิตคอยน์ในช่วงครึ่งหลังของปีอีกด้วย
ความคิดเห็น 0