แบงก์ออฟอเมริกา(BOA) ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐฯ ประกาศแผนการออก *สเตเบิลคอยน์* อย่างเป็นทางการ เข้าร่วมคลื่นการนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบการเงินดั้งเดิม ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณที่สอดรับกับแนวทางสนับสนุนคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยมีแนวโน้มสร้างจุดเปลี่ยนต่อการยอมรับคริปโตในวอลล์สตรีท
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) Reuters รายงานว่า ไบรอัน มอยนิฮาน(Brien Moynihan) ประธาน BOA ได้กล่าวในระหว่างการประชุมกับนักวิเคราะห์หลังประกาศผลประกอบการว่า “เรามีแผนจะออกเหรียญในอนาคต” แม้ยังไม่เปิดเผยช่วงเวลาที่แน่ชัด เขาเสริมว่าความต้องการในตลาดยังไม่สูง แต่ธนาคารได้เริ่มวางแผนเชิงกลยุทธ์ระยะกลางถึงยาวไว้ล่วงหน้าแล้ว
มอยนิฮานกล่าวเปรียบเทียบระหว่างระบบชำระเงินแบบเดิมอย่าง Zelle และ Venmo กับการใช้ *สเตเบิลคอยน์* โดยระบุว่า “ความร่วมมือระหว่างธนาคารและความชัดเจนทางกฎหมายเป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนเริ่มใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ” แม้ BOA จะเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีไปแล้วส่วนใหญ่ แต่ยังต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งอาจใช้เวลาอีกสักระยะ
ในด้านกฎหมาย ปัจจุบันสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ กำลังหารือร่างกฎหมายอย่าง *CLARITY*, *GENIUS* และ *Anti-CBDC* ซึ่งมีนัยต่อระบบสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะภายใต้แรงผลักดันของประธานาธิบดีทรัมป์ที่แสดงความมุ่งมั่นในการผลักดันกฎหมายเหล่านี้ ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า “ผมเพิ่งคุยกับท่านประธานาธิบดี และนี่คือหนึ่งในนโยบายที่สำคัญที่สุดของทั้งเขาและพวกเราทุกคน” ท่าทีนี้สอดคล้องกับจุดยืนที่เป็นมิตรมากขึ้นต่อ *สเตเบิลคอยน์* ของทรัมป์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
จุดยืนล่าสุดของ BOA ยังตรงข้ามกับจุดยืนเมื่อไม่กี่ปีก่อนที่เคยระบุว่า “ไม่มีแผนนำคริปโตมาใช้” ขณะนี้ไม่เพียง BOA เท่านั้น แต่ยังรวมถึงซีตี้กรุ๊ปและเจพีมอร์แกนที่ต่างแสดงความสนใจจะออกหรือศึกษา *สเตเบิลคอยน์* ของตัวเอง สร้างกระแสการแข่งขันด้าน ‘นวัตกรรมการชำระเงินดิจิทัล’ ให้เดือดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเจมี่ ไดมอน(Jamie Dimon) ซีอีโอของเจพีมอร์แกน ซึ่งเคยวิพากษ์บิตคอยน์อย่างรุนแรง ก็กำลังหันมาพิจารณาความเคลื่อนไหวในตลาดนี้
ตลาดคาดว่าแนวโน้มนี้ไม่ได้เป็นแค่กระแสชั่วคราว แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะนำไปสู่ *การผสานอย่างแท้จริงระหว่างการเงินดั้งเดิมและโลกสินทรัพย์ดิจิทัล* หากนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ยังคงหนุนหลังเชิงระบบ โครงสร้างพื้นฐานของ *สเตเบิลคอยน์* ในสหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มจะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0