ตลาดคริปโตเผชิญกับความผันผวนรุนแรงในช่วงกลางสัปดาห์ ส่งผลให้สินทรัพย์ดิจิทัลสำคัญต่างร่วงลงพร้อมกัน หลังจากที่บิตคอยน์(BTC)เพิ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ราคาก็หลุดจากระดับ 120,000 ดอลลาร์ (ราว 4.4 ล้านบาท) ทำให้บรรยากาศการเทขายในระยะสั้นรุนแรงขึ้น ขณะที่อีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP) และโซลานา(SOL) ก็พากันหลุดแนวรับหลักและเร่งตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่า ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตำแหน่งลงทุนที่ถูกบังคับปิด (Liquidation) ในตลาดรวมสูงถึง *735 ล้านดอลลาร์* (ราว 26,899 ล้านบาท) โดย *นักลงทุนใน ETH และ XRP ขาดทุนมากกว่าผู้ถือ BTC* อย่างชัดเจน การปิดสถานะในตลาดฟิวเจอร์สของ ETH สูงถึง *152.78 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ 5,570 ล้านบาท) ส่วน XRP ก็แตะ *88.58 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ 3,233 ล้านบาท) ขณะที่ BTC อยู่ที่ *65.29 ล้านดอลลาร์* (ราว 2,378 ล้านบาท) ซึ่งถือว่า ‘ต่ำกว่า’ อย่างมีนัยสำคัญ
สาเหตุหลักมาจากแรงขายทำกำไรหลังราคาทะลุแนวต้านสำคัญ และการ ‘ล้างพอร์ต’ ของนักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจสูง โดยผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่ากำไรที่สะสมในสินทรัพย์อย่าง BTC, ETH และ XRP ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง จึงทำให้ทั้งรายย่อยและนักลงทุนรายใหญ่ต่างเทขายพร้อมกัน ซึ่งสะท้อนผ่านข้อมูลรายได้บนเครือข่ายที่เริ่มเป็นลบ
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศด้าน *สภาพคล่องในตลาดยังคงดูดี* แม้ปริมาณเทรดยังต่ำเมื่อเทียบกับต้นปี แต่ *ความลึกในตลาด (Market Depth) ของ ETH และ XRP กลับปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดของปี* สะท้อนความเชื่อมั่นที่กลับมา โดยเฉพาะเมื่อฝั่งซื้อ-ขายเริ่มมีความสมดุลอย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน *ดัชนีการครอบครองตลาดของบิตคอยน์ หรือ BTC Dominance* กำลังพยายามฟื้นตัว แต่ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 62.99% ได้ หากทะลุไปได้สำเร็จ อาจต่ออายุแนวโน้มขาขึ้นของ BTC ได้อีกพักหนึ่ง แต่หากไม่ผ่าน ก็อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะ ‘อัลท์ซีซัน’ ที่หลายคนรอคอย
“*การปรับฐานรอบนี้ถือเป็นเรื่องปกติของวงจรตลาด และจริง ๆ แล้วเป็นสัญญาณของความแข็งแรง*” คือข้อสรุปร่วมของนักวิเคราะห์หลายราย ขณะที่กระแสเงินลงทุนจากกองทุน ETF และกลุ่มสถาบันยังไม่ได้ลดลง จึงทำให้ภาพรวมความเชื่อมั่นในตลาดยังคงอยู่ในระดับดีในระยะกลางถึงยาว
แม้ว่า *ดัชนีอัลท์ซีซัน* จะยังอยู่ที่ระดับ 49 ซึ่งสะท้อนถึงความไม่ชัดเจนของทิศทาง แต่บรรดานักลงทุนต่างก็ใช้จังหวะนี้เป็นช่วง ‘พักตัวชั่วคราวหลังจากพุ่งขึ้นแรง’ และหันมาเฝ้ารอตลาดอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ความคิดเห็น 0