บริษัท เวลจิสติกส์ เฮลธ์ (Wellgistics Health) ผู้จัดจำหน่ายยาในสหรัฐอเมริกาที่มีสำนักงานใหญ่ในรัฐฟลอริดา กลายเป็นที่จับตาหลังเปิดเผยแผนกลยุทธ์ที่ไม่ธรรมดา โดยเมื่อวันที่ 24 บริษัทได้ยื่นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ระบุว่าต้องการถือครอง *ริปเปิล(XRP)* เป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ซึ่งหากสำเร็จจะทำให้เวลจิสติกส์ กลายเป็นบริษัทด้านสุขภาพที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นแห่งแรกของสหรัฐที่รวม *XRP* ไว้ในกลยุทธ์ทางการเงิน
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เวลจิสติกส์ได้ลงนามในสัญญาจัดหาเงินทุนมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 695 พันล้านวอน) กับบริษัทลงทุนระดับโลก LDA Capital โดยบริษัทมีแผนจะค่อย ๆ เพิ่มการถือครอง XRP ผ่านการออกพันธบัตรและแนวทางอื่นในการจัดหาเงินทุน ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้มองแค่การถือครองเพียงอย่างเดียว แต่ยังเตรียมหาทาง *นำ XRP มาใช้ในเศรษฐกิจจริง*
แผนดังกล่าวรวมถึงการปรับใช้ *ระบบชำระเงินที่ใช้ XRP เลเจอร์ (XRPL)* และการใช้ *XRP เป็นหลักประกันเงินกู้* เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน บิล มอร์แกน (Bill Morgan) นักกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านคริปโตให้ความเห็นว่า กลยุทธ์ดังกล่าวของเวลจิสติกส์มีความซับซ้อนหลายระดับ และสะท้อนถึงความตั้งใจจริงของบริษัทที่จะ *ใช้ XRP ในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์และบริการ*
ทางบริษัทยังประกาศด้วยว่าในอนาคตอาจร่วมมือกับร้านขายยาหรือพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อใช้ *XRP เป็นตัวกลางในการชำระเงินแบบเรียลไทม์* อีกทั้งยังพิจารณาการเพิ่มสัดส่วนการถือครองเพื่อ *สร้างกระแสเงินสดจาก XRP* อย่างไรก็ตาม แผนการนี้ก็ยังถูกตั้งคำถามว่า เป็นกลยุทธ์ธุรกิจที่แท้จริงหรือเป็นเพียง *กลยุทธ์สร้างภาพเพื่อดึงดูดนักลงทุน*
มาร์ก แฟเกล (Marc Fagel) อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของ SEC กล่าวอ้างจากรายงานทางบัญชีว่า เวลจิสติกส์มี *รายได้ต่ำ ติดลบทางบัญชีอย่างต่อเนื่อง มีสินทรัพย์ไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงด้านการดำเนินธุรกิจ* พร้อมเตือนว่า กลยุทธ์ XRP อาจเป็นเพียงแค่ *เครื่องมือดึงดูดนักลงทุนในรูปแบบใหม่* เท่านั้น อย่างไรก็ดี มอร์แกนแย้งว่าการเคลื่อนไหวลักษณะนี้เป็นแนวโน้มระยะยาวเช่นเดียวกับที่บริษัทต่าง ๆ เช่น *เทสลา(TSLA), ไมโครสตราเทจี(MSTR), และ เม่ยถู* เคยทำกับ *บิตคอยน์(BTC)*
นักลงทุนบางรายตั้งคำถามว่า เวลจิสติกส์ถือว่า XRP ดีกว่าเงินสดจริงหรือไม่ หรือมีจุดประสงค์เพื่อใช้ *สภาพคล่องของ XRP* ในระบบชำระเงินแบบใหม่ ซึ่งในมุมนั้น มอร์แกนให้ความเห็นว่า *ทั้งสองแนวทางสามารถเป็นไปพร้อมกันได้*
หากแผนการของเวลจิสติกส์กลายเป็นจริง ก็อาจเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ *XRP* จาก ‘สินทรัพย์สำหรับนักลงทุนสถาบัน’ หรือ ‘โทเคนเพื่อการเก็งกำไร’ ไปสู่การเป็น *เครื่องมือสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจในเศรษฐกิจจริง* อย่างไรก็ตาม หากบริษัทไม่สามารถใช้ XRP ได้จริงตามแผนที่วางไว้และกลายเป็นเพียงเครื่องมือในการหาทุน ความน่าเชื่อถือใน *ยูทิลิตี้ของ XRP* ก็อาจถูกลดทอนลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จุดชี้ขาดอยู่ที่ว่า บริษัทจะสามารถดำเนินกลยุทธ์ตามที่ประกาศไว้ได้จริงหรือไม่ เพราะนี่อาจเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญ* ที่จะสะท้อน *มูลค่าที่แท้จริงของ XRP* และส่งผลต่อทิศทางของตลาดในภาพรวมต่อไป
ความคิดเห็น 0