ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศนโยบายคริปโตอย่างเป็นทางการผ่านรายงานความยาว 163 หน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทิศทางการดำเนินงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาลสหรัฐ ทั้งในด้านการกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ การปรับโครงสร้างภาษี รวมถึงการเพิ่มอำนาจให้กับหน่วยงานกำกับดูแลกลาง อย่างไรก็ดี สิ่งที่สร้างความสับสนให้กับอุตสาหกรรมคือ *การขาดรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการสะสมบิตคอยน์(BTC) เพื่อใช้เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์* ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนทั่วโลก
รายงานฉบับนี้จัดทำโดยคณะทำงานด้านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของประธานาธิบดี และถือเป็นแผนดำเนินงานอย่างเป็นทางการภายหลังคำสั่งฝ่ายบริหารที่ทรัมป์ลงนามเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้รัฐบาลจะย้ำเจตนารมณ์ในการส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัล แต่รายละเอียดเกี่ยวกับ *แผนการสะสมบิตคอยน์ ได้แก่ ระยะเวลาและวิธีการดําเนินการ* กลับถูกรวบรวมไว้เพียงในย่อหน้าเดียว
โบ ไฮนส์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาว เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนเกี่ยวกับการถือครองบิตคอยน์ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกสู่สาธารณะได้ *ความคิดเห็น* มีการคาดการณ์ว่าแผนดังกล่าวอาจจะใช้คริปโตเคอร์เรนซีที่ยึดมาได้จากการปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินมาเป็นฐานในการสะสมสินทรัพย์ดิจิทัล
วงการคริปโตแสดงความผิดหวังต่อการเว้นหัวข้อสำคัญนี้เอาไว้ เนื่องจากนโยบายบิตคอยน์ของรัฐบาล มีนัยสำคัญทางเชิงสัญลักษณ์ในฐานะการยอมรับบิตคอยน์เป็น 'สินทรัพย์ระดับชาติ' การขาดแผนดำเนินงานที่ชัดเจนจึงทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึง *ความจริงจังของรัฐบาล*
นอกจากแผนการสะสมบิตคอยน์แล้ว ยังมีอีกหลายประเด็นที่รายงานฉบับนี้นำเสนอแบบไม่ครอบคลุม เช่น โครงสร้างตลาดกลางของรัฐบาลกลางซึ่งเน้นเพียงบทบาทกำกับตามกฎหมายเดิม โดยไม่ได้กล่าวถึงการนำกฎหมายใหม่เข้ามาแทนที่ ทว่าได้กล่าวถึงความคืบหน้าในด้านการออกกฎหมาย เช่น *ร่างกฎหมาย GENIUS* ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามเพื่อกำหนดมาตรฐานสำหรับผู้ออกสเตเบิลคอยน์ และ *ร่างกฎหมาย Clarity* ที่กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนพิจารณาในวุฒิสภา
ในแง่ของนโยบายภาษี มีการเสนอให้ยกเว้นภาษีกำไรจากการขายในธุรกรรมย่อยประจำวัน และปรับเกณฑ์ทางภาษีของผลประโยชน์จากการสเตค ซึ่งถือเป็นข้อเรียกร้องที่นักลงทุนชาวอเมริกันต้องการมานาน โดยมี *ซินเธีย ลัมมิส(Cynthia Lummis)* วุฒิสมาชิกที่ได้รับการสนับสนุนจากชุมชนนักลงทุนคริปโตเป็นแกนนำหลักผลักดันร่างกฎหมายในประเด็นนี้
แม้รายงานดังกล่าวจะสามารถกำหนด *กรอบใหม่สำหรับนโยบายคริปโตของรัฐบาลทรัมป์* ได้สำเร็จ แต่สาระสำคัญอย่าง *วัตถุประสงค์หลักและวิธีการดำเนินโครงการสะสมบิตคอยน์* ยังคงเป็นความลับ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า การเปิดเผยรายละเอียดของโครงการนี้ในอนาคตจะกลายเป็น 'จุดตัดสินใจ' สำคัญของทิศทางนโยบายคริปโตในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไป
ความคิดเห็น 0