Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) พักฐานอย่างมีสัญญาณบวก นักวิเคราะห์ชี้แนวโน้มฟื้นตัวยังมีอยู่

บิตคอยน์(BTC) พักฐานอย่างมีสัญญาณบวก นักวิเคราะห์ชี้แนวโน้มฟื้นตัวยังมีอยู่ / Tokenpost

ตลาดบิตคอยน์(BTC) มีสัญญาณว่าความร้อนแรงในระยะสั้นเริ่มคลี่คลายลงบ้าง โดยบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชนอย่างคริปโตควอนต์เผยว่า การปรับฐานในขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่ ‘ค่อนข้างจำกัด’ เมื่อเทียบกับภาวะตลาดที่ร่วงแรงในอดีต ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงอาจไม่รุนแรงนัก

คริปโตควอนต์วัดดัชนีความร้อนแรงของตลาดจากสัดส่วนของผู้ถือครองบิตคอยน์ที่ระยะเวลาน้อยกว่า 1 วันถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งมักสะท้อนแรงขายในระยะสั้น หากตัวเลขปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็มักนำไปสู่การเทขายและราคาที่ร่วงลง แต่ในการปรับฐานรอบนี้ กลับพบว่าตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดือนมีนาคมถึงตุลาคมปีที่แล้ว และช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ตลาดยังมีโอกาส ‘ฟื้นตัวกลับ’ ในระยะเวลาสั้นและไม่ดิ่งลงมากนัก

ด้านคริปโตควอนต์ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันตลาดไม่ได้อยู่ในภาวะร้อนแรงเกินจริง ดังนั้นอาจมองได้ว่าการปรับฐานครั้งนี้เป็นเพียง ‘จังหวะพักฐานเพื่อต่อยอด’ ซึ่งหากภาวะเศรษฐกิจมหภาคและความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวดีขึ้นก็อาจเห็นแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

บิตคอยน์ในขณะนี้เคลื่อนไหวบริเวณระดับ 118,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.64 ล้านบาท โดยหลังจากราคาปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีรายงานว่ากลุ่มผู้ถือครองระยะยาวเริ่มทยอยขายทำกำไร ขณะที่นักลงทุนระยะสั้นกำไรก็เริ่มลดลง ส่งผลให้ ‘ความกดดันฝั่งขายในตลาดเพิ่มขึ้น’ และเกิดแรงกดดันจากความเหนื่อยล้าของตลาดหลังจากช่วงขาขึ้น

บริษัทด้านการเงินคริปโต แมทริกซ์พอร์ต เตือนว่านักลงทุนยังต้องจับตา ‘ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค’ สำคัญ ทั้งการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และท่าทีจากทำเนียบขาว ซึ่งอาจทำให้ราคาบิตคอยน์หยุดพักหรือกลับเข้าสู่ภาวะนิ่งได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายนที่เคยเป็นช่วงแรงเสียดทานของราคาในอดีตเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ช่องวิเคราะห์ทางเทคนิค บิตคอยน์เวกเตอร์ ระบุว่าบิตคอยน์ขณะนี้กำลังทดสอบ ‘แนวต้านหลัก’ ที่ระดับ 120,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.73 ล้านบาท) และมีแนวรับที่ระดับ 112,500 ดอลลาร์ (ราว 1.56 ล้านบาท) ซึ่งหากราคายังคงเคลื่อนไหวในช่วงนี้ได้ ก็อาจกลายเป็น ‘จังหวะเข้าซื้อ’ สำหรับนักลงทุน และหากทะลุแนวต้านสำเร็จ ก็อาจทำให้แนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางเดินหน้าต่อไป

โดยรวมแล้ว การปรับฐานในรอบนี้ถูกมองว่าเป็น ‘กระบวนการปรับโครงสร้างอย่างสุขภาพดี’ มากกว่าการร่วงแรง นักลงทุนจึงควรพิจารณาแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค รวมถึงสัญญาณของตลาดในระยะสั้น เพื่อประเมินช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการกลับเข้าลงทุน

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1