ความเคลื่อนไหวของโคอินเบส(COIN)ในการออกหุ้นกู้แปลงสภาพแบบไม่จดทะเบียน อาจนำไปสู่การซื้อบิตคอยน์(BTC)เพิ่มเติม ส่งผลให้แรงสนับสนุนต่อแนวโน้มเงินทุนไหลจากตลาดการเงินดั้งเดิมเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น หากการลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นจริง โคอินเบสจะกลายเป็นบริษัทแรกในดัชนี S&P500 ที่นำรายได้จากหุ้นกู้แปลงสภาพมาใช้ในการซื้อบิตคอยน์โดยตรง
เมื่อวันที่ 4 (เวลาท้องถิ่น) โคอินเบสเปิดเผยแผนการออกหุ้นกู้แปลงสภาพสำหรับนักลงทุนสถาบัน มูลค่ารวม 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.78 ล้านล้านวอน) โดยแบ่งเป็นสองชุด ชุดละ 1 พันล้านดอลลาร์ ครบกำหนดในปี 2029 และ 2032 ตามลำดับ หุ้นกู้ดังกล่าวเป็น ‘หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันแบบลำดับแรก’ ที่จ่ายดอกเบี้ยย้อนหลังทุกไตรมาส โดยรายละเอียดของอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการแปลงสภาพจะถูกกำหนดในช่วงปิดการเสนอขาย
โคอินเบสยังวางแผนเสนอสิทธิซื้อเพิ่มเติมวงเงิน 150 ล้านดอลลาร์ ต่อชุด แก่นักลงทุนเบื้องต้นสำหรับพันธบัตรปี 2029 และ 2032 รวมมูลค่าเพิ่มอีก 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้บริษัทระบุว่าเงินทุนที่ได้รับจะนำไปใช้สำหรับ ‘ค่าใช้จ่ายจากธุรกรรมออปชัน รวมถึงทุนดำเนินงานทั่วไป ซึ่งครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร การเข้าซื้อกิจการ และการลงทุนด้านเทคโนโลยี’
ปัจจัยที่ดึงดูดความสนใจจากตลาดอย่างมาก คือความเป็นไปได้ที่เงินทุนจากหุ้นกู้ชุดนี้จะถูกใช้ในการ ‘ซื้อบิตคอยน์’ ปัจจุบันโคอินเบสเป็น ‘หนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่ถือครองบิตคอยน์มากที่สุด’ โดยครอบครองอยู่ 11,776 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 1.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.75 ล้านล้านวอน) อ้างอิงตามข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามสินทรัพย์ ‘BitcoinTreasuries.NET’
หากรายได้จากหุ้นกู้ถูกนำไปใช้ซื้อบิตคอยน์จริง จะนับเป็นเหตุการณ์เชิงสัญลักษณ์ที่สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากการลงทุนทางอ้อมไปสู่ ‘การซื้อโดยตรงของภาคธุรกิจ’ ซึ่งอาจยิ่งขับเคลื่อนเงินทุนเข้าสู่ตลาดคริปโต ความเคลื่อนไหวนี้ยังเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสสนับสนุนจากภาคการเมือง โดยเฉพาะหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงจุดยืนหนุนบิตคอยน์และผลักดันอุตสาหกรรมเหมืองคริปโตในสหรัฐ ซึ่ง *ความคิดเห็น* อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มที่ภาคธุรกิจและการเมืองจะเริ่มนำคริปโตเคอร์เรนซีเข้ามาอยู่ในกลยุทธ์พอร์ตการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0