รัฐบาลสหรัฐเร่งเครื่องนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) สู่ระบบราชการ หลังลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับโอเพ่นเอไอ(OpenAI) แบบ ‘ไม่เคยมีมาก่อน’ โดยภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เวอร์ชันองค์กรของแชตจีพีที(ChatGPT Enterprise) ถูกนำไปใช้งานในหน่วยงานราชการกลางทั่วประเทศ เพื่อเดินหน้าสู่การ ‘เปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล’ อย่างเต็มตัว
ข้อตกลงครั้งนี้มีเงื่อนไขที่ถือว่าพิเศษอย่างยิ่ง โดยแต่ละหน่วยงานรัฐสามารถใช้งานแพลตฟอร์มแชตจีพีทีได้ในอัตราค่าธรรมเนียมเพียง ‘1 ดอลลาร์ต่อปี’ หรือประมาณ 1,390 วอน จุดมุ่งหมายหลักคือการ *ฝังรวมเทคโนโลยี AI ลงในระบบบริหารของภาครัฐแบบลึกซึ้ง* ซึ่งนับเป็นก้าวเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ข้อมูลนี้ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการผ่านสำนักงานบริหารงานทั่วไปของสหรัฐ(GSA) โดย GSA ระบุว่า ข้อตกลงนี้คือ “รากฐานเพื่อเร่งเครื่องประสิทธิภาพและผลผลิตของภาครัฐ ผ่านการส่งเสริมการนำ AI มาใช้”
ความตกลงระหว่างรัฐและเอกชนครั้งนี้ยังสอดคล้องกับ ‘แผนปฏิบัติการด้าน AI’ ที่ทำเนียบขาวริเริ่มไว้ โดยเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศยุทธศาสตร์หลัก 3 ด้านในการยกระดับสหรัฐให้เป็นผู้นำทาง AI ของโลก ซึ่งหนึ่งในแกนสำคัญคือการนำศักยภาพเทคโนโลยีของภาคเอกชนมาช่วยขับเคลื่อนภาครัฐ การทดลองใช้งานเทคโนโลยีแชตจีพีทีในภาครัฐจึงนับว่าเป็นก้าวเบื้องต้น เพื่อเตรียมพร้อมรับการประยุกต์ใช้งานจริงในด้านการกำหนดนโยบาย เขียนรายงาน และการให้บริการประชาชน
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนมาหลายครั้งว่า สหรัฐต้องเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี AI การดำเนินการล่าสุดจึงสอดคล้องกับแนวนโยบายดังกล่าว แม้จะมีเสียงวิพากษ์เกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล และความโปร่งใสของอัลกอริธึมเมื่อแพลตฟอร์ม AI จากภาคเอกชนถูกรวมเข้ากับหน่วยงานของรัฐ แต่ทางรัฐบาลสหรัฐยืนกรานว่าจะ ‘บริหารความเสี่ยงผ่านระบบตรวจสอบเข้มงวด’
การลงนามความร่วมมือระหว่าง GSA และโอเพ่นเอไอจึงตอกย้ำถึง *ความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐในการขับเคลื่อนนวัตกรรม AI* ซึ่งน่าจับตามองว่าแต่ละหน่วยงานภาครัฐจะนำแชตจีพีทีไปประยุกต์ใช้อย่างไรในการกำหนดและดำเนินนโยบายในอนาคต
ความคิดเห็น 0