ริปเปิล(XRP) พุ่งขึ้นกว่า 13% ภายในสองวัน หลังจากกรณีพิพาททางกฎหมายระหว่างบริษัทริปเปิลกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากคดีใหญ่ที่ลากยาวมานานเกือบ 5 ปี ตามเอกสารที่ยื่นต่อศาลอุทธรณ์รอบที่ 2 ของสหรัฐ เมื่อไม่นานนี้ ทั้งสองฝ่ายยอมถอนการอุทธรณ์และยุติคดีโดยสมัครใจ
คดีดังกล่าวนับว่าเป็นหนึ่งในข้อพิพาทที่ซับซ้อนที่สุดในวงการคริปโต โดย สจวร์ต อัลเดอโรตี(Stuart Alderoty) หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของริปเปิลกล่าวว่า “วันนี้ หลังจากการลงมติของ SEC เราได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อยุติการอุทธรณ์ร่วมกัน นี่คือจุดสิ้นสุด และเราจะกลับไปทำธุรกิจอย่างแท้จริงอีกครั้ง”
จุดเริ่มต้นของคดีนี้ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 SEC ยื่นฟ้องริปเปิล พร้อมผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอย่าง แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) และ คริส ลาร์สัน(Chris Larsen) โดยกล่าวหาว่า XRP เป็น ‘หลักทรัพย์ที่ไม่ผ่านการจดทะเบียน’ การต่อสู้ในครั้งนี้ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายทางกฎหมายมหาศาล และกลายเป็นจุดอภิปรายสำคัญในการจำแนกสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทาง *บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด* ของ SEC ภายใต้การนำของ แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) และภาพรวมการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาลไบเดน
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2023 เมื่อผู้พิพากษา แอนนาลิซา ตอร์เรส ตัดสินว่า วิธีการขาย XRP บางรูปแบบไม่เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ แต่ในกรณีขายโดยตรงให้กับนักลงทุนสถาบันนั้น ถือเป็นการขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้รับการจดทะเบียน ส่งผลให้ริปเปิลต้องจ่ายค่าปรับ 125 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,738 พันล้านวอน) แม้จะสูง แต่ยังห่างไกลจากยอดเรียกร้องเดิมของ SEC ที่มากถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.78 ล้านล้านวอน)
ราคาของริปเปิลพุ่งแตะ 3.36 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,670 บาท) เพิ่มขึ้น 13% จากวันก่อน พร้อมปริมาณซื้อขายหนาแน่น โดยราคาอยู่ใกล้จุดสูงสุดตลอดกาลที่ 3.65 ดอลลาร์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เดือนก่อน ลดลงเพียง 7.7% เท่านั้น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวชี้ให้เห็นถึง *แรงซื้อที่แข็งแกร่ง* จากนักลงทุนที่เฝ้าติดตามผลคดีนี้มาโดยตลอด
กลุ่มผู้ถือครอง XRP ที่เรียกตัวเองว่า ‘XRP แฟนคลับ’ แสดงความยินดีผ่านแพลตฟอร์ม X (หรือชื่อเดิม ทวิตเตอร์) พร้อมเน้นย้ำว่านี่คือ *คดีตัวอย่าง* ที่อาจพลิกโฉมเกณฑ์การพิจารณาว่าเหรียญคริปโตเป็นหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ หรือไม่ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชี้ว่า คำตัดสินนี้จะมีนัยสำคัญต่อสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ และอาจส่งผลให้เกิดความชัดเจนในเชิงกฎหมายมากขึ้น
หลังการปิดคดี ผู้ประกอบการและนักวิเคราะห์คาดว่า ‘ริปเปิล’ จะเห็นการยอมรับที่มากขึ้นในตลาดหลักทรัพย์และแพลตฟอร์มซื้อขายต่าง ๆ โดย ‘ความไม่แน่นอนด้านกฎหมาย’ ที่ถ่วงความเชื่อมั่นของทั้งอุตสาหกรรมอาจเริ่มคลี่คลายลงจากจุดนี้เป็นต้นไป.
ความคิดเห็น 0