กระแส ‘โซเชียลไฟ(SocialFi)’ ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงหลังได้ส่งผลให้เครือข่ายเลเยอร์ 2 บนพื้นฐานของอีเธอเรียม(ETH) อย่าง ‘เบส(Base)’ กลายเป็นที่จับตามองมากขึ้น และกำลังท้าทายความเป็นผู้นำของโซลานา(SOL) ที่เคยครองตำแหน่งหัวหอกในด้านการเปิดตัวโทเคนใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มมีมโทเคนตลอดช่วงที่ผ่านมา
โซลานานั้นเป็นที่รู้จักในฐานะแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการเปิดตัวโทเคนจำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มอย่าง *Pump.fun* ซึ่งปล่อยโทเคนใหม่ในแต่ละวันนับหมื่นรายการ จุดแข็งของโซลานาอยู่ที่ ‘ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ’ และ ‘ความเร็วในการประมวลผลสูง’ ซึ่งดึงดูดผู้ใช้งานจำนวนมากให้ย้ายออกจากอีเธอเรียมที่มีต้นทุนสูงกว่า
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คอยน์เบส(Coinbase) ได้รีแบรนด์กระเป๋าเงินดิจิทัลของตนใหม่ภายใต้ชื่อ 'เบสแอป(Base App)' ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจโทเคนบนเบส โดยโทเคนใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมักมีการผสานกับโพสต์บนโซเชียลมีเดีย, เนื้อหาไวรัล และเครื่องมือสำหรับครีเอเตอร์ ทั้งหมดนี้ถูกรวมเข้าด้วยกันในแพลตฟอร์มแบบไร้ศูนย์กลางอย่างโซรา(Zora) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเติบโตในทิศทางใหม่นี้
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การเปิดตัวโทเคนใหม่เริ่มเบนเข็มมาที่เบสอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลออนเชนอย่างนันเซน(Nansen) ระบุว่า หากดูจากกิจกรรมบนเครือข่ายและตัวชี้วัดหลักหลายรายการแล้ว โซลานายังคงมี ‘ความได้เปรียบ’ อยู่ในภาพรวม แม้ว่าเบสจะดึงดูดทีมพัฒนาและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจำนวนมาก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่า "หลายพันโทเคนใหม่เหล่านี้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจจริงหรือไม่?" และบางฝ่ายก็แสดงความกังวลว่านี่อาจเป็นเพียงแค่ ‘กระแสชั่วคราว’
คำถามต่อไปคือ โลกของโทเคนใหม่จะเปลี่ยนผ่านจากโซลานาไปสู่เบสจริงหรือไม่? หรือการเติบโตของเบสเป็นเพียงคลื่นสั้น ๆ ที่จะจางหายไปในเวลาไม่นาน ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดในตอนนี้ แต่อย่างน้อย ‘การทดลอง’ ของเบสที่นำเอาโซเชียลไฟและระบบนิเวศแบบกระจายศูนย์ที่เน้นผู้สร้างคอนเทนต์มาเชื่อมโยงกันนั้น ก็กำลังสร้าง ‘แนวทางใหม่’ ให้กับการขยายโครงการในวงการคริปโตได้อย่างน่าจับตา
ความคิดเห็น 0